มาตรา144

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติรับคำร้องกล่าวหา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และบุคคลอื่นรวมกว่า 100 ราย กรณีจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 โดยอาจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคหนึ่งและวรรคสอง โดยหนึ่งในประเด็นที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณให้กับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายพิชัย ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสารคำร้องโดยตรง เพียงรับทราบข่าวจากภายนอก แต่จากการฟังความเห็นของหลายฝ่าย เชื่อว่า “ไม่น่าจะมีปัญหาในการใช้งบประมาณ” พร้อมยืนยันว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ได้มีการตัดงบรายการที่เกี่ยวข้องกับเงินต้นหรือดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตตามที่ถูกกล่าวหา โดยระบุว่า “ไม่ได้ตัด ยังเหมือนเดิม ถ้าเป็นเงินตรงนั้น ไม่ได้ตัดแน่นอน” สำหรับกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่ารัฐบาลปรับลดงบชดเชยเงินกู้ของธนาคารของรัฐ นายพิชัยชี้แจงว่า งบประมาณในส่วนนั้น “ไม่ใช่เงินต้น ไม่ใช่ดอกเบี้ยตามคำนิยาม” รายงานข่าวจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า คำร้องที่ ป.ป.ช. รับไว้แบ่งเป็น 2 สำนวนหลัก ได้แก่ สำนวนแรก กล่าวหานางสาวแพทองธาร, นายเศรษฐา ทวีสิน (เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี), คณะรัฐมนตรี, คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องว่า มีส่วนโดยตรงหรือโดยอ้อมในการตัดลดงบประมาณที่ต้องชำระคืนเงินกู้ ดอกเบี้ย และรายจ่ายตามข้อผูกพันทางกฎหมาย เพื่อนำงบประมาณไปใช้ในโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 สำนวนที่สอง กล่าวหา สส. เขตของพรรคเพื่อไทย, อดีต สส., นายจักรพงษ์ แสงมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และผู้บริหารระดับสูงของสำนักงบประมาณ ในกรณีแทรกแซงการจัดสรรงบประมาณโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฯ ปี 2568 ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือทางการเมือง