
“กองทัพเนปาล” ประกาศเคอร์ฟิว คุมม็อบ “Gen Z” หลังเสียชีวิต 25 บาดเจ็บ 600 ราย
สถานการณ์ประท้วงเนปาล ล่าสุดกองทัพสั่งเคอร์ฟิวในกรุงกาฐมาณฑุไม่มีกำหนด หลังม็อบ “Gen Z” 4 วันต่อเนื่องลุกลามบานปลาย ยอดผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 25 ราย บาดเจ็บกว่า 600 คน ผู้ชุมนุมเสนอชื่ออดีตประธานศาลฎีกาหญิง “สุชิลา การ์กี” ขึ้นนายกฯ รักษาการ
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ว่า กองทัพเนปาล ได้ประกาศเคอร์ฟิวโดยไม่มีกำหนดในกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศ เพื่อควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมใหญ่ โดยทหารมีคำสั่งให้ประชาชนอยู่ภายในที่พักอาศัย เพื่อป้องกันการรวมกลุ่มหรือการประท้วงเพิ่มเติม หลังการชุมนุมของม็อบ “Gen Z” ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา
ชนวนเหตุมาจากความไม่พอใจการตัดสินใจของรัฐบาลเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 ที่สั่งปิดกั้นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย 26 รายการ รวมถึง Facebook, Instagram และ WhatsApp เนื่องจากไม่ได้ลงทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลตามกำหนดเวลา ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่า การปิดกั้นดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อขัดขวางการวิจารณ์รัฐบาล โดยเฉพาะประเด็นทุจริตคอร์รัปชัน ก่อนจะลุกลามเป็นการประท้วงใหญ่ทั่วประเทศ
รายงานจากทางการและสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งระบุว่า ตัวเลขทางการล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 25 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 600 คน
สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุถึงหนึ่งในสถานที่ได้รับความเสียหายจากการประท้วงใหญ่ครั้งนี้ คือ โรงแรมฮิลตัน กาฐมาณฑุ (Hilton Kathmandu hotel) โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวที่เพิ่งเปิดบริการได้เพียงปีเดียว ซึ่งผู้ประท้วงอ้างว่า เป็นทรัพย์สินของบุตรชายนักการเมืองที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพันคดีคอร์รัปชัน
ขณะเดียวกัน หลังการลาออกของนายกรัฐมนตรีเนปาล นายเค.พี. ชาร์มา โอลี เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว เอพี รายงานว่า ตัวแทนผู้ชุมนุมได้หารือกับเจ้าหน้าที่กองทัพเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลรักษาการ และได้เสนอชื่อ สุชิลา การ์กี อดีตประธานศาลฎีกา ซึ่งเป็นสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกนายกรัฐมนตรีรักษาการ