
ครม. ตั้ง “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” ร่วมทีม “บวรศักดิ์” ขับเคลื่อน–ติดตามนโยบายรัฐบาล
ครม. มีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 377/2568 ลงวันที่ 22 ต.ค. 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน เร่งรัด และติดตามนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี โดยมี “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นที่ปรึกษาในคณะกรรมการชุดที่มี “บวรศักดิ์ อุวรรณโณ” เป็นประธาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 ต.ค.68) คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบตามที่ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เสนอแต่งตั้ง คณะกรรมการขับเคลื่อน เร่งรัด และติดตามนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 377/2568 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2568 โดยมีนายบวรศักดิ์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ
ทั้งนี้ มีการแต่งตั้ง นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระหว่างปี 2560-2562 เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล
สำหรับคณะกรรมการชุดนี้ยังมีบุคคลจากหลายภาคส่วนร่วมเป็นกรรมการ อาทิ รศ.วรากรณ์ สามโกเศศ ประธานกรรมการมูลนิธิซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ นายนพพล ชูกลิ่น นักธุรกิจและผู้ก่อตั้งบริษัท ไนซ์คอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท รีเทล บิซิเนส โซลูชั่นส์ จำกัด นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธุ์ อดีตผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย ทั้งหมดดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการ
คณะกรรมการดังกล่าว จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินงานตาม 15 นโยบายสำคัญใน 5 ด้าน ที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ได้แก่ 1. ด้านเศรษฐกิจ 2. ด้านความมั่นคง 3. ด้านสังคม 4. ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ 5. ด้านการบริหารภาครัฐและการปฏิรูปกฎหมาย
คณะกรรมการ มีหน้าที่ขับเคลื่อน เร่งรัด และติดตามนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมถึงเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่อคณะรัฐมนตรี พร้อมมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพิ่มเติมได้ตามความจำเป็น
ทั้งนี้ ให้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการประสานและรวบรวมข้อมูลความคืบหน้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรายงานผลต่อคณะกรรมการ และให้ สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) สนับสนุนการดำเนินงานตามที่ได้รับการร้องขอ
คำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่หลังการเลือกตั้งทั่วไปจะเข้ารับหน้าที่

