
หุ้นยุโรปปิดลบ นักลงทุนระวังท่าทีเจรจาการค้าสหรัฐ
หุ้นยุโรปปิดลบ นักลงทุนชะลอซื้อขาย รอความชัดเจนนโยบายการค้า “สหรัฐฯ-อียู” พร้อมประเมินข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอจากเยอรมนี ขณะที่ ECB อาจพิจารณาลดดอกเบี้ยเพิ่มแรงกระตุ้น
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลดลงในวันพุธ (28 พ.ค.68) จากแรงขายทำกำไรหลังปรับขึ้นต่อเนื่องสองวัน ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวัง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ และการประเมินข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาค
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 548.93 จุด ลดลง 3.39 จุด หรือ -0.61% หลังรับแรงหนุนช่วงต้นสัปดาห์จากข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขยายเส้นตายจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป (EU) ขณะที่ ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 7,788.10 จุด ลดลง 38.69 จุด หรือ ลดลง 0.49% ด้าน ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 24,038.19 จุด ลดลง 188.30 จุด หรือ -0.78% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 8,726.01 จุด ลดลง 52.04 จุด หรือ -0.59%
ผู้กำหนดนโยบายของสหภาพยุโรป (EU) ขอให้บริษัทยักษ์ใหญ่เปิดเผยแผนลงทุนในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ที่กำลังเจรจากับรัฐบาลวอชิงตันเกี่ยวกับภาษีนำเข้า ซึ่งส่งผลให้ดัชนีกลุ่มยานยนต์ในยุโรปขยับขึ้น 0.7%แม้ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-ยุโรป มีแนวโน้มผ่อนคลาย แต่นักลงทุนยังไม่คลายความกังวล เนื่องจากท่าทีของรัฐบาลทรัมป์ยังคงผันผวน
ตลาดหุ้นเยอรมนีเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศ โดยราคานำเข้าเดือนเมษายนลดลง 0.4% จากปีก่อนหน้า ซึ่งสวนทางกับคาดการณ์ และอัตราว่างงานเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาด สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง
ทั้งนี้ ตลาดประเมินว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมสัปดาห์หน้า เพื่อลดแรงกดดันทางเศรษฐกิจ
ด้านตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลงเล็กน้อย สอดคล้องกับตัวเลข GDP ไตรมาสแรกที่ขยายตัวในอัตราต่ำตามคาด ขณะที่กลุ่มธุรกิจป้องกันประเทศขยับขึ้น 0.7% ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน
สื่อต่างประเทศระบุว่า รัสเซียเสนอเงื่อนไขการยุติสงครามยูเครน โดยเรียกร้องให้ชาติตะวันตกให้คำมั่นว่าจะไม่ขยายขอบเขตองค์การนาโต (NATO) ไปทางตะวันออก และยกเลิกการคว่ำบาตรบางส่วนต่อมอสโก