
“ดาวโจนส์” ปิดลบกว่า 200 จุด! ตลาดผวาผลประกอบการ-จับตาถ้อยแถลง “พาวเวลล์”
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงทั่วกระดาน ดาวโจนส์ร่วงกว่า 200 จุด ท่ามกลางความกังวลเรื่องทิศทางดอกเบี้ยของเฟด และแรงกดดันจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาต่ำกว่าคาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในวันอังคาร (29 ก.ค.68) ดัชนีหลักทั้งสามทรุดตัวลง โดยนักลงทุนลดความเสี่ยงก่อน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะประกาศผลการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ ขณะเดียวกัน ผลประกอบการจากบริษัทจดทะเบียนบางรายออกมาต่ำกว่าคาด กดดันความเชื่อมั่นของตลาดอย่างต่อเนื่อง
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 44,632.99 จุด ลดลง 204.57 จุด หรือ -0.46%
- ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,370.86 จุด ลดลง 18.91 จุด หรือ -0.30%
- ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 21,098.29 จุด ลดลง 80.29 จุด หรือ -0.38%
ตลาดรอการแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานเฟด ที่จะมีขึ้นภายหลังการประชุม FOMC วันนี้ (30 ก.ค.68) โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่จะส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการ “เริ่มลดดอกเบี้ย” ในเดือนกันยายน หากข้อมูลเศรษฐกิจหนุนให้เกิดการผ่อนคลายนโยบาย
ขณะเดียวกัน การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่จัดขึ้นในกรุงสตอกโฮล์ม ยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ ออกมา ส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลต่อความล่าช้าของการผ่อนคลายนโยบายภาษีนำเข้า ซึ่งเดิมมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 1 สิงหาคม แต่มีแนวโน้มว่าจะขยายออกไปถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2568
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลงแตะระดับ 4.33% ขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย สะท้อนภาวะตลาดที่ยังคงระมัดระวังต่อความไม่แน่นอน ทั้งในเชิงนโยบายการเงินและภูมิรัฐศาสตร์การค้าโลก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะทยอยประกาศในช่วงปลายสัปดาห์ อาทิ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP), ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE), ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน (JOLTS) และรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ซึ่งเฟดจะใช้ประกอบการตัดสินใจในช่วงครึ่งหลังของปี