“ดาวโจนส์” ร่วง 330 จุด นักลงทุนรอ Apple แจ้งงบ–เฟดยังไม่ส่งซิกลดดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 330.30 จุด หรือ 0.74% หลังจากได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าและทิศทางอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนยังรอผลประกอบการจาก Apple และ Amazon รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (31 ก.ค. 68) ท่ามกลางแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลประกอบการจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่และความวิตกกังวลเกี่ยวกับท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Fed) ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 44,130.98 จุด ลดลง 330.30 จุด หรือ -0.74%
  • ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,339.39 จุด ลดลง 23.51 จุด หรือ -0.37%
  • ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 21,122.45 จุด ลดลง 7.23 จุด หรือ -0.03%

แม้ผลประกอบการจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และ เมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) จะดีกว่าคาดการณ์ ทำให้หุ้นของเมตาเพิ่มขึ้น 11.25% และหุ้นไมโครซอฟท์เพิ่มขึ้น 3.9% พร้อมมาร์เก็ตแคปที่ทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ตลาดเริ่มอ่อนแรงลงในช่วงท้าย ท่ามกลางความกังวลว่า หุ้นกลุ่ม AI และ เซมิคอนดักเตอร์ จะชะลอตัวลง ซึ่งอาจสะท้อนถึงแรงซื้อที่จำกัด

หุ้นบรอดคอม ร่วงลง 2.9% ขณะที่อินวิเดีย (NVDA) ลดลง 0.8% กดดันดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ของตลาดฟิลาเดลเฟีย (PHLX Semiconductor Index) ให้ปรับตัวลงถึง 3.1% ซึ่งเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน

นักลงทุนยังจับตาผลประกอบการของ Apple และ Amazon ที่จะรายงานหลังปิดตลาด รวมถึงการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับคู่ค้าสำคัญ โดยล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศขยายเวลาเจรจากับเม็กซิโกอีก 90 วัน เพื่อปูทางสู่ข้อตกลงใหม่

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลจากดัชนี PCE เดือนมิถุนายน ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ โดยดัชนี Core PCE ปรับตัวขึ้น 2.8% สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 218,000 ราย

ตลาดยังเผชิญแรงกดดันจากกลุ่มเฮลธ์แคร์และอสังหาริมทรัพย์ โดยดัชนี NYSE Arca Pharmaceutical Index ร่วงลง 2.9% หลังจากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งจดหมายถึงผู้บริหารบริษัทยารายใหญ่ 17 แห่ง เพื่อเร่งลดราคายา ส่งผลให้หุ้น UnitedHealth และ Merck ร่วงลง 6.2% และ 4.5% ตามลำดับ

นักลงทุนยังรอดูตัวเลข การจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่จะเปิดเผยในวันนี้ (1 ส.ค.68) ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนกันยายน

Back to top button