“หุ้นยุโรป” ปิดลบ เซ่นกลุ่มเฮลท์แคร์ร่วง หลัง “ทรัมป์” ขู่ขึ้นภาษียา 250%

ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรง หลังหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ถูกเทขายหนัก จากความกังวลแผนภาษีนำเข้ายาของ “ทรัมป์” ที่อาจพุ่งสูงถึง 250% ภายใน 18 เดือน ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์เร่งเจรจาสหรัฐฯ หวังลดผลกระทบจากภาษีนำเข้า 39%


ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (6 ส.ค.68) หลังจากปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วัน โดยถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์อย่างหนัก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เปิดเผยแผนภาษีนำเข้ายาแบบขั้นบันได สูงสุดถึง 250% ภายใน 18 เดือน ส่งผลให้ดัชนี STOXX 600 ยุติช่วงบวกก่อนหน้า

  • ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 07 จุด ลดลง 0.33 จุด หรือ -0.061%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 7,635.03 จุด เพิ่มขึ้น 99 จุด หรือ +0.18%
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 23,924.36 จุด เพิ่มขึ้น 29 จุด หรือ +0.33%
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 9,164.31 จุด เพิ่มขึ้น 58 จุด หรือ +0.24%

ดัชนีกลุ่มเฮลท์แคร์ ใน STOXX 600 ร่วงลงถึง 2.8% แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือน หลังจากทรัมป์แถลงแผนใช้มาตรการภาษีขั้นบันไดกับสินค้ากลุ่มเภสัชกรรม โดยระบุว่า อาจเริ่มต้นจากระดับ 25% และค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเป็น 250% ภายในเวลา 18 เดือน เพื่อกดดันบริษัทต่างชาติให้ย้ายฐานการผลิตกลับสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีคาริน เคลเลอร์-ซัทเทอร์ ของสวิตเซอร์แลนด์ ได้หารือกับนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ เพื่อหาทางลดความตึงเครียดจากมาตรการภาษี 39% ที่สหรัฐฯ เพิ่งประกาศใช้กับสินค้านำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ การเจรจามุ่งเน้นให้สวิตเซอร์แลนด์เพิ่มการนำเข้าสินค้ากลุ่มพลังงานและอาวุธจากสหรัฐฯ เพื่อลดแรงกดดันทางการค้า

Back to top button