
หุ้นยุโรปปิดลบ แรงขายกลุ่ม “ยานยนต์–แบงก์” กดดัน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบวันจันทร์ ถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มรถยนต์และธนาคาร แม้หุ้นเทคโนโลยีและเหมืองแร่ช่วยพยุงตลาดบางส่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันจันทร์ (22 ก.ย.68) ปิดลบ ดัชนีใหญ่ ๆ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากแรงกดดันของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ แม้จะได้รับแรงหนุนบางส่วนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและเหมืองแร่
โดย ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 553.40 จุด ลดลง 0.72 จุด หรือ –0.13% ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 7,830.11 จุด ลดลง 23.48 จุด หรือ –0.30%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 23,527.05 จุด ลดลง 112.36 จุด หรือ –0.48% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,226.68 จุด เพิ่มขึ้น 10.01 จุด หรือ +0.11%
หุ้นกลุ่มรถยนต์ (Automakers) เผชิญแรงขาย หลัง Porsche ปรับลดประมาณการผลประกอบการปี 2025 และเลื่อนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงหลายเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ Volkswagen ซึ่งเป็นบริษัทแม่ก็ปรับลดประมาณการกำไรเช่นกัน ทำให้หุ้นร่วงลงตามมา
ด้านหุ้นกลุ่มธนาคารยูโรโซน โดยเฉพาะ Sabadell ของสเปน ร่วงลงแรง หลังมีรายงานว่า BBVA เพิ่มข้อเสนอซื้อกิจการ แต่ไม่ช่วยหนุนราคาหุ้นขึ้น ขณะที่หุ้น BBVA เองก็อ่อนตัวลงเช่นกัน
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงเป็นแรงพยุงตลาด โดยเฉพาะผู้ผลิตชิปอย่าง ASML และ ASMI ที่ปรับตัวบวกได้ ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และทองคำได้แรงหนุนจากราคาทองคำที่พุ่งแตะระดับสูงสุด ส่งผลให้ Fresnillo, Glencore และ Rio Tinto ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นักลงทุนยังคงจับตาการดำเนินนโยบายการเงินของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากเพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยตลาดรอฟังแถลงการณ์จาก นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด รวมถึงติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI เบื้องต้นเดือนกันยายน ทิศทางจากการประชุมธนาคารกลางสวีเดนในวันอังคาร รวมถึง ผลประชุมของธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ในวันพฤหัสบดี และตัวเลขเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้