“หุ้นยุโรป” ปิดบวกเล็กน้อย หลัง “บจ.” เปิดงบ Q3 กำไรผสมผสาน “เพิ่มขึ้น-ลดลง”

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย หลังผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนใหญ่ในยุโรปผลกำไรออกมาทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง ขณะตลาดฝรั่งเศสพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หนุนโดยแรงซื้อในหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและพลังงาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ต.ค.68) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยเมื่อวันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2568 โดยนักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในยุโรป ซึ่งทยอยประกาศออกมาคละเคล้ากัน และส่งผลให้ภาพรวมการซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 573.30 จุด เพิ่มขึ้น 1.20 จุด หรือ +0.21% โดยตลาดหุ้นอื่น ๆ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน ได้แก่ ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 8,258.86 จุด เพิ่มขึ้น 52.79 จุด หรือ +0.64% ทำสถิติ ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 24,330.03 จุด เพิ่มขึ้น 71.23 จุด หรือ +0.29% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 9,426.99 จุด เพิ่มขึ้น 23.42 จุด หรือ +0.25%

สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) ระบุว่า นักลงทุนในยุโรปอยู่ระหว่างประเมินแนวโน้มกำไรของบริษัทยุโรปในไตรมาส 3 ปีนี้ โดยนักวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการเติบโตของกำไรลดลงเหลือเฉลี่ยเพียง 0.2% จากเดิมที่คาดไว้ราว 0.5% สะท้อนแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตและอัตราดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวในระดับสูง

ขณะที่ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ตลาดหุ้นฝรั่งเศสได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและพลังงานที่ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้ดัชนี CAC-40 พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ยังมีความกังวลด้านหนี้สาธารณะและสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ

ด้าน สำนักข่าวอินเวสติ้งดอตคอม (Investing.com) ระบุว่า ภาพรวมตลาดยุโรปยังได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นในช่วงสั้น หลังบริษัทขนาดใหญ่ในภาคเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมประกาศผลประกอบการแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ส่วน สำนักข่าวบิซิเนสไทมส์ (The Business Times) วิเคราะห์ว่า นักลงทุนเริ่มผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาคธนาคารในสหรัฐฯ และประเด็นความตึงเครียดทางการค้า ส่งผลให้ตลาดกลับมาอยู่ในภาวะ “รับความเสี่ยง” มากขึ้น

โดยรวมตลาดยังจับตาท่าทีของ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางการลงทุนระยะถัดไป

Back to top button