
“ดาวโจนส์” ปิดลบ 798 จุด หวั่น “เฟด” ชะงักลดดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. – หุ้นเทคร่วงหนัก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงแรงสุดในรอบกว่า 1 เดือน นักลงทุนเทขายหุ้นเทคฯ หลังเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณไม่เร่งลดดอกเบี้ยเดือน ธ.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดดิ่งแรงที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน เมื่อวันพฤหัสบดี (13 พ.ย. 2568) นับตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมเป็นต้นมา หลังการชัตดาวน์รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ยาวนาน 43 วันสิ้นสุดลง นักลงทุนกลับมาให้น้ำหนักกับความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ และปรับลดความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 47,457.22 จุด ลดลง 797.60 จุด หรือ -1.65%
ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,737.49 จุด ลดลง 113.43 จุด หรือ –1.66%
ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 22,870.36 จุด ลดลง 536.10 จุด หรือ -2.29%
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายออกมาแสดงท่าที “ไม่เร่งปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม” ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่ง ส่งผลให้โอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. “แทบไม่เปลี่ยนแปลง” จากเดิม
ด้านหุ้นเทคโนโลยีเป็นแรงฉุดสำคัญของตลาด โดยเฉพาะกลุ่ม AI ได้แก่ Nvidia ร่วงกว่า 3.6%, Tesla ดิ่งประมาณ 6.6% จากยอดขายรถ EV ที่ชะลอตัวทั่วโลก และ Broadcom ร่วงราว 4.3%
ภาวะขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มเติบโต (Growth Stocks) ส่งผลให้ Nasdaq ปรับตัวลงหนักกว่าดัชนีอื่น
ทั้งนี้ แม้สหรัฐฯ จะยุติการปิดทำการของรัฐบาลแล้ว แต่ช่องว่างของข้อมูลเศรษฐกิจที่สะสมจากช่วงชัตดาวน์ยังเป็นปัจจัยที่เพิ่มความไม่แน่นอนในตลาดและทำให้นักลงทุนระมัดระวังมากขึ้น

