“ดาวโจนส์” ปิดลบ 41 จุด นักลงทุนจับตา “ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ”

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 41.49 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แดงรับต้นสัปดาห์ นักลงทุนชะลอการลงทุน ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการของสหรัฐฯ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกดดันตลาด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในการซื้อขายเมื่อคืนวันจันทร์ (15 ธ.ค.68) ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง หลังนักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ หลายรายการตลอดสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในระยะถัดไป

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 48,416.56 จุด ลดลง 41.49 จุด หรือ 0.09%
  • ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,816.51 จุด ลดลง 10.90 จุด หรือ 0.16%
  • ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 23,057.41 จุด ลดลง 137.76 จุด หรือ 0.59%

รายงานระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน 2568 ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ ขณะที่วันที่ 18 ธันวาคม จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพฤศจิกายน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอื่น ๆ ในสัปดาห์เดียวกัน อาทิ ยอดค้าปลีก จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการจาก S&P Global

ด้านความเคลื่อนไหวของหุ้นรายกลุ่ม พบว่า หุ้น 8 ใน 11 กลุ่ม ในดัชนี S&P 500 ปิดในแดนบวก โดยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ ปรับตัวขึ้นมากที่สุด 1.27% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค เพิ่มขึ้น 0.88% ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวลงมากที่สุด 1.04% และหุ้นกลุ่มพลังงาน ลดลง 0.76%

สำหรับหุ้นรายตัว หุ้น iRobot ผู้ผลิตหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบรนด์ “รูมบา” (Roomba) ร่วงลงหนักถึง 72.7% หลังบริษัทได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลาย ตามรายงานของสื่อต่างประเทศ

ขณะที่หุ้น ServiceNow ผู้ให้บริการด้านซอฟต์แวร์และความปลอดภัยทางไซเบอร์ ลดลง 11.5% หลังมีรายงานว่าบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการสตาร์ตอัป ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ Armis

ส่วนหุ้น Tesla ปรับตัวขึ้น 3.5% หลัง อีลอน มัสก์ ซีอีโอ เปิดเผยว่า เทสลาอยู่ระหว่างการทดสอบบริการแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) ซึ่งช่วยหนุนแรงซื้อหุ้นในช่วงท้ายตลาด

Back to top button