SET บ่าย Sideway up รอถ้อยแถลงเฟด 26 ส.ค.นี้โบรกฯแนะ “ซื้อ” BJC ชูเป้า 50 บ. ปัจจัยหนุนเพียบ

SET บ่าย Sideway up รอถ้อยแถลงเฟด 26 ส.ค.นี้-รอดูการประชุมของผู้ผลิตน้ำมันว่าจะมีสัญญาณอะไรออกมาบ้าง พร้อมให้แนวต้านไว้ที่ 1,550-1,560 แนวรับ 1,520 จุด โบรกฯแนะ “ซื้อ” BJC ชูเป้า 50 บ. ปัจจัยหนุนเพียบ


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (19 ส.ค.) ดีดตัวขึ้นต่อแต่ไม่มาก หลังมองแรงซื้อของสถาบันและต่างชาติชะลอตัวลง อาจเพราะต้องการรอดูสัญญาณต่าง ๆ ก่อน โดยรอดูถ้อยแถลงประธานเฟดในวันที่ 26 ส.ค.นี้ และรอดูการประชุมของผู้ผลิตน้ำมันว่าจะมีสัญญาณอะไรออกมาบ้าง ดังนั้นช่วงนี้ไปถึงสัปดาห์หน้าดัชนีฯคงแกว่ง Sideway up ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่ง Sideway up แต่เลือกลงทุนเป็นรายตัวได้ เน้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับขึ้น และสะสมหุ้นกลุ่มแบงก์ได้หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว ประกอบกับเชื่อว่า Fund Flow ยังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องอยู่ พร้อมให้แนวต้านไว้ที่ 1,550-1,560 แนวรับ 1,520 จุด

 

 นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดีดตัวขึ้นได้ต่อแต่ไม่มาก โดยมองว่าแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน และต่างชาติก็ไม่ได้มากนัก อาจเพราะต้องการรอดูสัญญาณต่างๆ ก่อน โดยรอดูถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของเฟด ที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 26 ส.ค. และรอดูการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันด้วย ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ก็จะมีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ ซึ่งก็ดูว่าจะมีสัญญาณอะไรออกมาบ้าง ดังนั้น ในช่วงนี้ไปจนถึงสัปดาห์หน้าคาดว่าดัชนีฯคงจะแกว่ง Sideway up  ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย เพื่อรอดูปัจจัยต่าง ๆ ในชัดเจนก่อน

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway up เพื่อรอดูปัจจัยต่างๆ ดังนั้นจึงเลือกลงทุนเป็นรายตัวได้ โดยจะเน้นไปที่หุ้นในกลุ่มพลังงานเป็นหลัก เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้น และให้สะสมได้ คือ หุ้นในกลุ่มแบงก์ ซึ่งทาง KGI ก็พึ่งจะ Upgrade และให้น้ำหนักมากขึ้น จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช่วยหนุน ประกอบกับ Fund Flow ยังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องอยู่ พร้อมให้แนวต้านไว้ที่ 1,550-1,560 จุด ส่วนแนวรับ 1,520 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (19 ส.ค.) ว่า SET ปรับสูงขึ้นเกือบ 10% หลัง Brexit ในช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา 2) เครื่องมือทางเทคนิค ไม่ว่าจะเป็น MACD, Stochastic และ RSI ต่างทำสัญญาณ Bearish divergence พร้อมกัน 3) แม้จะเริ่มเห็นการเร่งปรับประมาณการกำไรและราคาพื้นฐานบริษัทจดทะเบียนขึ้นแล้วในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังช้ากว่าการปรับขึ้นของ SET ซึ่งส่งผลให้ upside เฉลี่ยต่อราคาเป้าหมายหุ้นส่วนใหญ่แคบลง ดังนั้น หาก SET ปรับตัวขึ้นได้ต่อ ก็คาดว่าจะไม่แรงเท่าช่วงที่ผ่านมาอยู่ดี แนะนำ “จำกัดความเสี่ยง” และ “เลือกซื้อ” หุ้นที่มีโอกาสถูกปรับประมาณการขึ้นต่อ และความเสี่ยงจำกัด

ในขณะเดียวกันแนะนำซื้อ” หุ้น BJC ต่อเนื่อง เป้าหมายทางพื้นฐาน 50 บาท หนุนโดย 1) คาดกำไร ไตรมาส3/59 แข็งแกร่งจากการรวมกำไร BIGC (ถือ 98%) เข้ามา เต็มไตรมาส 2) ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่จะลดลงอีก จากการ refinance 3) การขยายสาขาในเชิงรุกมากขึ้น หนุนกำไรเติบโต 20% ในปี 2561 4) หุ้นยัง Under-own โดยนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ (ณ สิ้นเดือน มิ.ย กองทุนรวมฯไทย ถือ BJC เพียง 5 พันล้านบาท ซึ่งน้อยมาก เทียบกับขนาดกองทุนรวมฯที่เน้นลงทุนหุ้นในไทยกว่า 5 แสนล้านบาท) และด้วย Market Cap ที่ใหญ่อันดับ 20 +/- จะมีโอกาสสูงที่จะถูกนำเข้าไปรวมในดัชนี SET50 และ MSCI ภายในสิ้นปีนี้ 5) เป้าหมายทางเทคนิค 48.25 บาท และ 52 บาท ตามลำดับ

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

PTT   มูลค่าการซื้อขาย 1,711.04 ล้านบาท ปิดที่ 352.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,108.03 ล้านบาท ปิดที่  15.40 บาท ลดลง  0.30 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย   809.99 ล้านบาท ปิดที่  83.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

WHA   มูลค่าการซื้อขาย   653.56 ล้านบาท ปิดที่   3.40 บาท ลดลง  0.02 บาท          

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย   582.48 ล้านบาท ปิดที่  64.50 บาท ลดลง  0.25 บาท

Back to top button