SET ผันผวน ชง 17 หุ้นร้อน โรงพยาบาล-รับเหมาฯเด่นสุด

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ผันผวนและมีโอกาสปรับตัวลง โดยตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาขับเคลื่อน ขณะที่นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนจากปัจจัยต่างประเทศ การลงทุนจึงยังคงเน้นเก็งกำไรในหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยหนุนเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลและรับเหมาก่อสร้าง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.97 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตา 3 เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 มิ.ย. ได้แก่ การเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษ การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการที่นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการ FBI จะเข้าให้การต่อวุฒิสภาในประเด็นรัสเซีย

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ผันผวนและมีโอกาสปรับตัวลง โดยตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาขับเคลื่อน ขณะที่นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนจากปัจจัยต่างประเทศ การลงทุนจึงยังคงเน้นเก็งกำไรในหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยหนุนเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลและรับเหมาก่อสร้าง หุ้นเด่นเลือก LPH, RJH, BCH, CHG, MTLS, HANA, TISCO, EA, BPP, WORK, GFPT, IHL, PT, STEC, SEAFCO, PYLON และ TVO

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (7 มิ.ย.) SET มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ sideways 1,564 – 1,575 จุด โดยยังไม่เห็นปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนการปรับสูงขึ้นของตลาดในช่วงนี้ ทำให้กลยุทธ์ระยะสั้นยังเน้นไปที่กลุ่มหุ้น หรือหุ้นรายตัวที่มีประเด็นบวกเป็นหลัก ได้แก่ 1) กลุ่มโรงพยาบาล (LPH RJH BCH CHG) ประกันสังคมปรับค่าเหมาจ่ายรายหัวเพิ่ม เป็น 1,500 บาท/คน/ปี จากเดิม 1,460 บาท/คน/ปี ตั้งแต่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป 2) กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะถูกเพิ่มเข้าไปใน SET50/100 สิ้นเดือนนี้ 3) กลุ่มรับเหมาฯ การประมูลโครงสร้างพื้นฐานเร่งตัวใน 2H17

แนะนำ 1) “ซื้อ” LPH  และ BCH การปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวเป็น 1500 บาท/คน/ปี และขึ้นค่า RW เป็น upside risk ต่อประมาณการกำไร โดย LPH มีสัดส่วนรายได้จากประกันสังคมมากที่สุด 48% ของรายได้ 2) “ซื้อ” MTLS TISCO EA คาดถูกเพิ่มในดัชนี SET50/100 สิ้น ก.ค.นี้ และ 3) “ซื้อ” SEAFCO ผลดีเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะรถไฟฟ้า 3 เส้นทางปลายปีนี้ และโครงการภาคเอกชนอย่าง One Bangkok

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (7 มิ.ย.) คงมุมมองเป็นกลางถึงลบ ตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ นักลงทุนจะยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนกับ 3 เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 คือ 1) นายเจมส์ โคมี เข้าให้การกับวุฒิสภาสหรัฐต่อประเด็นรัสเซีย 2) เลือกตั้งอังกฤษ และ 3 )ประชุม ECB นอกจากนี้ยังมีสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอีกหนึ่งปัจจัยที่คอยกดดันดัชนี

ส่วนราคาน้ำมันดิบที่กลับมาฟื้นตัวเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการเป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน (PTTEP PTT) แต่ด้วยตลาดยังมี 4 ปัจจัยลบข้างต้นทำให้การปรับขึ้นของดัชนีเป็นไปอย่างจำกัด  นักลงทุนจะยังเก็งไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กเหมือนกับวันก่อน โดยเน้นหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการ 2Q17 จะออกมาดี (MTLS HANA) หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวนใน SET50/100 รอบใหม่ SET50 (EA BPP MTLS TISCO) และ SET 100 (WORK GFPT)

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : IHL (ซื้อ / เป้า 10.50 บาท) รับอานิสงส์รัฐบาลจีนสั่งปิดโรงฟอกหนังที่ไม่ได้คุณภาพส่งผลให้กำลังการผลิตโรงฟอกหนังลดลงเป็นบวกต่อ IHL ซึ่งได้ยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเท่าตัวหนุนกำไรสุทธิปีนี้และปีหน้าเติบโตโดดเด่น, PT (ซื้อเก็งกำไร กำหนดจุด Cut loss ที่ระดับ 3%) คาดผลประกอบการ 2Q17 เติบโตโดดเด่น จากจำนวนสินค้าคงเหลือที่รอส่งมอบเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 513 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 เทียบกับระดับปกติที่ 250 ล้านบาทต่อไตรมาส ซึ่งคาดว่ากว่า 70% จะทยอยส่งมอบในไตรมาส 2

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (7 มิ.ย.) คาดดัชนี SET ยังทรงตัวที่ระดับ 1,560 – 1,575 จุด ระหว่างรอผลการประขุม ECB , เลือกตั้ง UK รวมถึงสถานการณ์การเมืองสหรัฐ แนะนำซื้อ STEC, SEAFCO, PYLON ( + งานประมูลโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ ) และ TVO (+ ค่าเงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้ต้นทุนนำเข้าถั่วเหลืองลดลง)

Back to top button