ตลาดหุ้นไทย Downside ยังไม่หมด!ปรับพอร์ตลง 7 หุ้นปลอดภัย-ปันผลสูง

โบรกฯมอง Downside สำหรับ SET Index ยังคงมีอยู่ แนะนำนักลงทุนควรที่จะปรับพอร์ตเข้ามาสู่หุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง


บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (21 ก.ค.) ว่า ในช่วงเวลากว่า 3 ไตรมาสที่ผ่านมาถือได้ว่า SET Index อยู่ในช่วงของการปรับฐานโดยมีการเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ในกรอบแคบ และยังยืนอยู่ในระดับที่สูงไม่ได้มีการปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญอย่างไรก็ตามรูปแบบการเคลื่อนไหวของ SET Index ดังกล่าวหากพิจารณาควบคู่ไปกับองค์ประกอบในเชิงพื้นฐานอย่างเช่น GDP Growth แล้วถือว่าอยู่ในภาวะที่ไม่สอดคล้อง (ดูภาพด้านล่างประกอบ)

หรืออาจจะเรียกว่า Divergence ก็ได้โดยจะเห็นว่า GDP Growth อยู่ในทิศทางที่ปรับลดลงอย่างชัดเจนการที่ SET Index ยังคงยืนอยู่ที่ระดับสูงส่วนหนึ่งอธิบายได้ว่าเกิดจากแรงหนุนของเม็ดเงินที่เข้ามาซื้อหุ้นต่อเนื่องของนักลงทุนโดยบทบาทหลักในการเข้ามาซื้อหุ้นอยู่ที่กลุ่มนักลงทุนในประเทศ

ส่วนนักลงทุนต่างชาติหลังจากที่ได้ขายสุทธิออกมาต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2556 แล้วยังไม่เห็นแรงซื้อกลับมาอย่างมีนัยสำคัญประเด็นที่น่าติดตามก็คือว่าหากแรงซื้อสนับสนุนจากนักลงทุนในประเทศอ่อนแรงลงซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณแล้วในปัจจุบันที่มูลค่าการซื้อขายต่อวันทำการลดต่ำลงขณะที่การซื้อ-ขายสุทธิของนักลงทุนแต่ละกลุ่มไม่มีทิศทางที่ชัดเจนอาจทำให้ SET Index ไม่สามารถยืนอยู่ที่ระดับสูงได้

 

CC20150701_3

 

สำหรับแรงรับที่สำคัญอีกประการหนึ่งของ SET Index ได้แก่เรื่องของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนซึ่งในปัจจุบันก็อยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงที่จะเห็นการปรับลดลงมาของประมาณการกำไรปี 2558 เช่นกันโดยน่าจะเห็นการปรับประมาณการที่ชัดเจนหลังประกาศงบการเงินไตรมาส 2/58 แล้วเสร็จ (ปัจจุบันกลุ่มธนาคารพาณิชย์ประกาศตัวเลขกำไรไตรมาส 2/58 ออกมาอยู่ที่ 4.9 หมื่นล้านบาทลดลง 5.7% จากไตรมาสก่อนและ 5.5% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนทั้งนี้ยังไม่รวม BAY, BBL และ KTB)

จากสถานการณ์แวดล้อมที่เป็นดังกล่าวข้างต้นทำให้เชื่อว่า Downside สำหรับ SET Index ยังคงมีอยู่นักลงทุนควรที่จะปรับพอร์ตเข้ามาสู่หุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง ฝ่ายวิจัยคัดกรองหุ้นที่ให้ Dividend Yield เกิน 5% และมีค่า Beta ต่ำ ซึ่งมีหลายตัวเลือกที่น่าสนใจเช่น ASK, TVO, BTS และ INTUCH เป็นต้น และบางส่วนอาจเข้าลงทุนในหุ้นที่ภูมิคุ้มกันจากความผันผวนของเศรษฐกิจเช่นกลุ่มก่อสร้างอย่าง CK หรือกลุ่มปิโตรเคมีอย่างเช่น IRPC หรือกลุ่มที่มีรายได้ที่แน่นนอนอย่าง THCOM

 

ที่มา: บทวิเคราะห์ Market Talk 21 ก.ค.58

Back to top button