บอร์ดคัดเลือกเคาะเกณฑ์! รับสมัคร “ผู้ว่าการ ธปท.” 13 พ.ค. – 4 มิ.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 พ.ค.68) นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ผู้ว่าการ ธปท.) และโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบขั้นตอนและกำหนดการรับสมัครผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่

ผู้สมัครสามารถยื่นเอกสารด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นยื่นแทนได้ ณ กองนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน ชั้น 2 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ ภายในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่ 13 พ.ค. – 4 มิ.ย. 68

นายพรชัย กล่าวต่อว่า หลังจากปิดรับสมัคร คณะกรรมการจะตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม โดยมีกำหนดพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นในวันที่ 20 มิ.ย.68 และจะนัดให้ผู้สมัครที่ผ่านเกณฑ์ เข้ารับการสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการในวันที่ 24 มิ.ย.68 จากนั้นจะสรุปผลการคัดเลือก และเสนอรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่า 2 รายชื่อ ต่อนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ภายในวันที่ 2 ก.ค.68 เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ มีมติไม่เปิดเผยรายชื่อผู้สมัคร

คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร

• มีสัญชาติไทย และอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ในวันที่ ครม. มีมติแต่งตั้ง
• มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ด้านเศรษฐศาสตร์ หรือการเงินการธนาคาร
• สำเร็จการศึกษาไม่น้อยกว่าระดับปริญญาตรีจากสถาบันที่ ก.พ. รับรอง
• สามารถปฏิบัติงานเต็มเวลาให้กับ ธปท.
• มีคุณสมบัติเฉพาะและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศคณะกรรมการฯ

คุณสมบัติเฉพาะเพิ่มเติม (ต้องมีอย่างน้อยหนึ่ง)

• เคยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอธิบดี (หรือเทียบเท่า) ในหน่วยงานรัฐ
• เคยเป็นผู้บริหารองค์กรเอกชนที่มีสินทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท โดยมีตำแหน่งอย่างน้อยระดับรองจากผู้บริหารสูงสุด
• เคยเป็นผู้บริหารในรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรระหว่างประเทศในระดับรองจากผู้บริหารสูงสุด

เอกสารประกอบการสมัคร

• ใบสมัครที่กรอกครบถ้วน
• เอกสารแนวคิดในการบริหาร ธปท.
• วิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจมหภาค นโยบายการเงิน การกำกับดูแลสถาบันการเงิน และระบบการชำระเงิน

“การพิจารณายังคงยึดเกณฑ์เดิมเช่นเดียวกับรอบที่ผ่านมา เปิดกว้างให้ผู้สมัครจากภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้บริหารจากภาคเอกชน ต้องมาจากองค์กรที่มีสินทรัพย์ไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาท และเคยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองจากผู้บริหารสูงสุดขององค์กร เช่นเดียวกับกรณีของรัฐวิสาหกิจและข้าราชการ” นายพรชัย กล่าวย้ำ

สำหรับผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.mof.go.th, www.fpo.go.th, www.bot.or.th หรือสอบถามได้ที่ กองนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน โทร. 0-2273-9020 ต่อ 3229 หรือ 3238 และอีเมล [email protected]