
“พิชัย” ถกทูตสหรัฐ ติดตามคืบหน้าเจรจาภาษีตอบโต้ หนุนศักยภาพแข่งขันไทย
รองนายกฯ “พิชัย” ต้อนรับทูตสหรัฐฯ แลกเปลี่ยนมุมมองเศรษฐกิจ ย้ำสองประเทศพร้อมเดินหน้าความร่วมมือทุกมิติ ติดตามความคืบหน้าเจรจาภาษีตอบโต้ อัตราใหม่ 19% ช่วยเสริมศักยภาพแข่งขัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลังว่า วันนี้ (27 ส.ค.68) นายรอเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก (The Honorable Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบหารือกับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา ต่างเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเป็นพันธมิตรที่สำคัญของกันและกัน และการมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นมาอย่างยาวนาน ซึ่งสร้างประโยชน์ร่วมกันอย่างมหาศาล พร้อมเห็นพ้องที่จะสานต่อความร่วมมือทั้งสองด้านให้ก้าวหน้าในบรรยากาศแห่งมิตรภาพและการเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญต่อกัน
ทั้งสองฝ่ายยินดีที่คณะสมาชิกรัฐสภาสหรัฐอเมริกา (Congressional Delegation: CODEL) ได้เดินทางเยือนไทย และได้เข้าพบหารือกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา รวมถึงได้หารือกับนายพิชัย เมื่อวานนี้ นำไปสู่ผลลัพธ์เชิงบวกขยายความร่วมมือในด้านสำคัญอื่น ๆ อีกหลายมิติ
ในประเด็นการเจรจาภาษี นายพิชัย กล่าวว่า การเจรจาเรื่องมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในวาระสำคัญที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุด โดยได้หารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่ข้อเสนอเชิงรูปธรรมที่สามารถตอบโจทย์ข้อกังวลด้านการค้าของสหรัฐฯ ได้อย่างน่าพอใจ
สำหรับอัตราภาษีที่ปรับใหม่ในระดับ 19% นายพิชัย กล่าวว่า ไทยพึงพอใจต่อพัฒนาการเชิงบวกเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราเดิม โดยมองว่าจะช่วยให้ธุรกิจไทยยังคงความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก แม้จะยังเพิ่มต้นทุนการส่งออกและสร้างความไม่แน่นอน โดยเฉพาะกรณีอัตราภาษีสำหรับการถ่ายโอนสินค้าผ่านประเทศที่สาม (Transshipment) อย่างไรก็ดี ไทยพร้อมทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว พร้อมหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ด้านเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ยินดีให้ความช่วยเหลือกับไทย พร้อมทำงานอย่างใกล้ชิดกับไทยเพื่อให้สามารถบรรลุผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของไทย-สหรัฐฯ
ด้านเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ยังกล่าวชื่นชมถึงนโยบายของรัฐบาลในการดึงดูดบริษัทผลิตภาพยนตร์และซีรีส์ของสหรัฐฯ ในการใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งนับเป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จ โดยภาพยนตร์และซีรีส์ดังหลายเรื่องอย่าง The White Lotus, Jurassic World ได้ก่อให้เกิดการจ้างงานคนไทยจำนวนมาก และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งความสำเร็จของความร่วมมือในเรื่องนี้ สามารถเป็นตัวอย่างของความร่วมมือไทย-สหรัฐที่จะนำไปต่อยอดผลักดันไปสู่ความร่วมมือในสาขาอื่น ๆ ได้ในอนาคต
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงกระบวนการเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD การเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของสภาผู้ว่าการธนาคารโลก (World Bank Group) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ประจำปี 2569 สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทย ทั้งเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ และผลกระทบที่เกิดจากความไม่สงบบริเวณชายแดนไทยและกัมพูชา
นายพิชัย กล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยได้มีการเตรียมความพร้อมแล้วในทุกเรื่อง ส่วนการรับมือกับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจชายแดน รวมถึงได้มีมาตรการเยียวยาประชาชนและธุรกิจรองรับไว้แล้ว
นอกจากนี้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ หวังว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาจะเกิดสันติภาพที่ยั่งยืนโดยเร็ว และสหรัฐฯ ในฐานะที่เป็นพันธมิตรที่สำคัญของไทย ยินดีให้ความช่วยเหลือกับไทยอย่างใกล้ชิด