
ส.อ.ท. ชง 5 ข้อเสนอเร่งด่วนรัฐบาล “อนุทิน” หนุนอุตสาหกรรมฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก
ส.อ.ท. ยื่น 5 ข้อเสนอเร่งด่วนถึงรัฐบาล “อนุทิน” ครอบคลุมการรับมือภาษีสหรัฐฯ–สงครามการค้า เสริมสภาพคล่อง SMEs ปรับโครงสร้างค่าไฟ แก้ปัญหาการค้าชายแดนกัมพูชา และบริหารผลกระทบเงินบาทแข็งค่า ภายใต้แนวทาง “4GO” เพื่อยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ก.ย. 2568) นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และว่าที่รัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจว่า ภาคอุตสาหกรรมไทยกำลังเผชิญความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลก จึงได้ยื่นข้อเสนอเชิงนโยบาย 5 ประเด็นหลัก เพื่อเร่งสนับสนุนผู้ประกอบการและเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ภายใต้แนวทาง “4GO” ได้แก่ GO Digital & AI, GO Innovation, GO Global และ GO Green
5 ข้อเสนอเร่งด่วนของ ส.อ.ท. โดยสรุปได้แก่
- รับมือมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐอเมริกาและสงครามการค้า หลังไทยถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีอัตรา 19%ตั้งแต่วันที่ 7สิงหาคม 2568 และอาจเพิ่มเป็น 40% หากพบการสวมสิทธิ์ประเทศที่สาม (transshipment) โดย ส.อ.ท. เสนอให้รัฐเร่งจัดตั้งหน่วยงานให้คำปรึกษาเรื่องการคำนวณ Regional Value Content (RVC) และดำเนินมาตรการเชิงรุกด้านการค้าระหว่างประเทศ เพื่อช่วยผู้ประกอบการปรับตัวทันต่อกฎเกณฑ์ใหม่
- เสริมสภาพคล่อง SMEs ชี้ปัจจุบันหนี้เสีย (NPL) กลุ่ม SMEs สูงถึง 243,026ล้านบาท จากยอดหนี้คงค้างรวมกว่า 3.1ล้านล้านบาท จึงเสนอ “มาตรการ Fast Track” เช่น ค้ำประกันสินเชื่อฉุกเฉิน อนุมัติภายใน 3–7 วัน, สินเชื่อด่วนพิเศษอัตราดอกเบี้ย 1%, Express Lane วงเงิน 5–10 ล้านบาท โดยไม่ต้องใช้หลักประกัน และมาตรการ “Hair Cut” สำหรับปรับโครงสร้างหนี้เสีย เพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ที่เหลือได้และปิดบัญชี รวมทั้งลดปริมาณหนี้เสียในระบบโดยรวม
- การปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าเพื่อลดต้นทุนผู้ประกอบการ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิต เสนอให้โครงสร้างค่าไฟสะท้อนต้นทุนจริง และเอื้อต่อการแข่งขัน รวมถึงการสนับสนุนพลังงานทางเลือกและพลังงานหมุนเวียน พร้อมเร่งจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ภายในปี 2568และปรับลดเงินประกันการใช้ไฟฟ้าเหลือ 0.5เท่า สำหรับผู้มีประวัติการชำระตรงเวลา เพื่อบรรเทาภาระด้านการเงิน และเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ
- แก้ปัญหาการค้าชายแดนไทย–กัมพูชา เรียกร้องให้รัฐออกมาตรการเร่งด่วน ลดต้นทุนโลจิสติกส์ เปิด Soft Loan สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ จัดสิทธิประโยชน์ BOI และใช้มาตรการทวิภาคีเพื่อสร้างความชัดเจนทางการค้า รวมถึงการเยียวยาผู้ประกอบการที่ต้องขนส่งช่วงความขัดแย้ง
- บริหารผลกระทบค่าเงินบาทแข็งค่า โดยได้เสนอให้ภาครัฐเร่งศึกษาและแยกแยะผลกระทบจากธุรกรรมทองคำ คริปโตเคอร์เรนซี และการโอนเงินแรงงานต่างด้าวที่ไม่ผ่านระบบ ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถจำแนกได้ชัดเจน นอกจากนี้ ควรสนับสนุนการใช้สกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ภายใต้กรอบอาเซียน+3และส่งเสริมการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เช่น FX Options และ Forward Contract ด้วยมาตรการช่วยลดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเบื้องต้น
นายเกรียงไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า การหารือครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของความร่วมมือเชิงรุกระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย ส.อ.ท. พร้อมจะสนับสนุนและทำงานเคียงข้างรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืนในอนาคต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“อนุทิน” เผยทูลเกล้าฯ รายชื่อ ครม. สัปดาห์นี้ – ถก ส.อ.ท. เร่งแก้เศรษฐกิจ
 
				
