
“เอกนิติ” เผย “คลัง-ธปท.” เตรียมใช้กองทุนฟื้นฟูไม่เกิน 1 หมื่นล้าน ซื้อหนี้ออกระบบแบงก์
รองนายกฯ–รมว.คลัง เผย อยู่ระหว่างหารือ ธปท. ดึงเงินไม่เกินหมื่นล้านบาทจากกองทุนฟื้นฟูฯ ซื้อหนี้เสียออกจากระบบธนาคาร ผ่าน AMC กลาง บริหารร่วมรัฐและเอกชน คาดเห็นความชัดเจนภายใน 1 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ต.ค.68) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการซื้อหนี้ออกจากระบบธนาคาร ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ว่า ขณะนี้ทีมงานอยู่ระหว่างหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยมีนายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธปท. ลงมาดูแลเรื่องนี้ด้วยตนเอง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายใน 1 เดือน เนื่องจากแนวทางดำเนินการเริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้น
นายเอกนิติ กล่าวว่า หลักการคือ รัฐบาลที่แล้วได้ดำเนินโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” โดยใช้เงินจาก กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่ง ไม่ใช่งบประมาณของรัฐบาล ปัจจุบันกองทุนดังกล่าวมีวงเงินเหลืออยู่ราว 26,000 ล้านบาท โดยสามารถนำบางส่วนมาใช้ซื้อหนี้ออกจากระบบธนาคารได้ ในลักษณะเดียวกับช่วงวิกฤติปี 2540 คือ “ซื้อออกในราคาต่ำ” เนื่องจากธนาคารส่วนใหญ่ได้ตั้งสำรองไว้เกือบครบแล้ว
“แนวคิดคือ รัฐซื้อหนี้ออกมาเพื่อบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพ และทำโครงการพัฒนาลูกหนี้ให้กลับมาเป็นคนดีในระบบได้อีกครั้ง” รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าว
นายเอกนิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาหลักของลูกหนี้จำนวนมากคือ ลูกหนี้หนึ่งคน มีภาระหนี้หลายแห่ง เมื่อผิดนัดชำระเพียงแห่งเดียวก็ถูกตามทวงจากเจ้าหนี้สิบคนพร้อมกัน จึงจำเป็นต้องรวมศูนย์ข้อมูลหนี้ทั้งหมดไว้ที่บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อประเมินศักยภาพที่แท้จริงของลูกหนี้ เช่น หากมีรายได้เดือนละ 10,000 บาท แต่ต้องผ่อนหนี้รวมกว่า 4,000 บาท ก็ไม่สามารถชำระได้ตามกำหนด
“เมื่อเอาหนี้มารวมไว้ที่ AMC เราจะดูภาพรวมว่าเป็นหนี้ที่ไหนบ้าง แล้วจัดระบบใหม่ ทั้งการลดดอกเบี้ย ตัดต้น เพื่อลดภาระ เช่น จากเดิมผ่อนเดือนละ 5,000 บาท อาจเหลือเพียง 1,000 บาท ทำให้ลูกหนี้มีเงินเหลือใช้และกลับมามีศักยภาพทางเศรษฐกิจอีกครั้ง” รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ระบุ
ทั้งนี้ เมื่อได้รับการช่วยเหลือแล้ว ลูกหนี้จะต้องแสดงวินัยทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าสู่กระบวนการสร้าง “เครดิตใหม่” โดยกระทรวงการคลัง จัดทำ “Ari Score” เพื่อให้คะแนนลูกหนี้ที่ชำระตรงเวลา หากมีวินัยดีต่อเนื่องอาจได้รับการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต
สำหรับกรอบวงเงินที่จะนำมาใช้ นายเอกนิติ ระบุว่า อยู่ระหว่างการประเมินร่วมกับ ธปท. เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจะเกิน 10,000 ล้านบาทจากกองทุนฟื้นฟูฯ ส่วนส่วนลดจากการซื้อหนี้จะอยู่ในระดับ “ราคายุติธรรม” ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือโดยตรงกับผู้ว่าการ ธปท.
รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ยังเปิดเผยว่า รัฐบาลและธนาคารพาณิชย์ จะร่วมกันจัดตั้ง AMC กลาง เพื่อซื้อหนี้ออกมาบริหาร โดยมี 2 แนวทาง คือ 1. หากตั้งบริษัทใหม่อาจใช้เวลานาน ไม่ทันภายใน 4 เดือน 2. ทางเลือกที่เป็นไปได้มากกว่า คือ ใช้โครงสร้างของบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐที่มีอยู่เดิม ได้แก่ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM และ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ซึ่งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยถือหุ้นอยู่แล้ว
“หากใช้ SAM หรือ BAM จะสามารถเดินหน้าได้เร็วกว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังและ ธปท. กำลังหารือร่วมกันในรายละเอียด เพื่อกำหนดแนวทางและสัดส่วนการร่วมทุนให้ชัดเจน” นายเอกนิติ กล่าวทิ้งท้าย