
เปิด 4 มาตรการ “Quick Big Recovery” หลัง ครม.เศรษฐกิจไฟเขียว ฟื้นฟู–เยียวยาน้ำท่วมใต้
นายกฯ “อนุทิน” นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.เศรษฐกิจ เคาะ 4 มาตรการใหญ่ฟื้นฟูและเยียวยาผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้ ทั้งพักหนี้ดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี สินเชื่อเยียวยาและฟื้นฟูอาชีพ เพิ่มเงินช่วยเหลือครัวเรือน ลดหย่อนภาษี และมาตรการร้านธงฟ้ารองรับค่าครองชีพ พร้อมเตรียมแผนระยะยาวร่วมญี่ปุ่นเพื่อป้องกันภัยซ้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ (1 ธ.ค.68) เวลา 14:30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ครั้งที่ 6/2568 เพื่อพิจารณามาตรการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ภายหลังการประชุม นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงผลการประชุม โดยที่ประชุมเห็นชอบมาตรการเยียวยาและฟื้นฟู ภายใต้แนวคิด “Quick Big Recovery” เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว
เหตุอุทกภัยครั้งนี้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและทรัพย์สินรวมกว่า 5 แสนล้านบาท และส่งผลกระทบต่อประชาชนมากกว่า 2.9 ล้านคน รัฐบาลจึงจัดทำมาตรการหลัก 4 ด้าน ครอบคลุมทั้งประชาชนและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs
ที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รวบรวมชุดมาตรการและรายละเอียด เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.68) โดยแบ่งการใช้งบประมาณเป็น 2 ลักษณะ คือ บางส่วนใช้งบประมาณปกติ และบางส่วนใช้งบตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติงบประมาณ
ขณะที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐจะใช้งบประมาณของตนเองเพื่อช่วยเหลือประชาชน ส่วนกรณีสินเชื่อที่จะช่วยสนับสนุนธนาคารพาณิชย์นั้น กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย อยู่ระหว่างหารือเพื่อกำหนดแนวทางร่วมกัน
1. ด้านพักต้น–พักดอก และมาตรการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู
รัฐบาลเดินหน้าแก้ภาระหนี้เร่งด่วน โดยสถาบันการเงินของรัฐเตรียมดำเนินมาตรการดังนี้
- พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 12 เดือน วงเงิน ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย พร้อมยกเว้นดอกเบี้ยในช่วงพักหนี้ ทำให้ดอกเบี้ยเป็น 0% ตลอด 12 เดือน
- ธปท. ผ่อนเกณฑ์ ไม่ต้องถูกจัดชั้นเป็น NPL เพื่อไม่ให้ลูกหนี้เกิดภาระเพิ่มเติม
- สินเชื่อเยียวยา (ลูกหนี้เดิม) วงเงินกู้เพิ่ม ไม่เกิน 100,000 บาท ดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน
- สินเชื่อฟื้นฟูอาชีพ วงเงิน ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย ดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน โดยสถาบันการเงินของรัฐเป็นผู้ดูแล
- ผู้ประกอบการ SMEs ได้รับการสนับสนุนผ่าน ซอฟต์โลน (Soft Loan) ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมการค้ำประกันจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยใช้ต้นแบบมาตรการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
- ธปท. และสมาคมธนาคารไทยจะออกแบบมาตรการร่วม เพื่อให้แนวทางของธนาคารรัฐและธนาคารพาณิชย์มีความสอดคล้องกัน
2. ด้านเพิ่มเงินในกระเป๋าและช่วยเหลือรายได้
เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ครัวเรือนและผู้ประกอบการ รัฐบาลออกมาตรการดังนี้
- เงินเยียวยาครัวเรือน 9,000 บาท
- จัดสรร เงินทดรองราชการ 100 ล้านบาท สำหรับช่วยเหลือเร่งด่วน
- สำนักงาน คปภ. จ่ายค่าสินไหมตามจริง
- บ้านและทรัพย์สินไม่เกิน 20,000 บาท
- ร้านค้าที่มีประกันไม่เกิน 30,000 บาท
- รถยนต์สามารถเคลมได้ทันที เพียงถ่ายภาพระดับน้ำและทะเบียนรถ
- กระทรวงแรงงาน ออกมาตรการช่วยเหลือ
- จ่ายเงินกรณีว่างงาน 50% ของค่าจ้าง สูงสุด 180 วัน
- สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน วงเงินกู้ ไม่เกิน 15 ล้านบาท เพื่อรักษาการจ้างงาน
3. มาตรการลดค่าใช้จ่ายและลดหย่อนภาษี
รัฐบาลเตรียมบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและผู้ประกอบการ ผ่านมาตรการต่อไปนี้
- ขยายเวลาชำระภาษีและค่าธรรมเนียมในพื้นที่ประสบภัย
- ประสานกระทรวงมหาดไทย พิจารณา ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
- ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- ค่าซ่อมทรัพย์สินไม่เกิน 100,000 บาท
- ค่าซ่อมรถไม่เกิน 30,000 บาท
- ผู้ประกอบการสามารถ หักค่าใช้จ่ายซ่อมแซมทรัพย์สินได้ 2 เท่า
- การบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสามารถนำไป ลดหย่อนภาษีได้ตามเกณฑ์
4. ด้านลดต้นทุนและสนับสนุนค่าครองชีพ
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มาตรการร้านธงฟ้าจะมีความพิเศษ ได้แก่
- จัด ร้านธงฟ้าเคลื่อนที่ เพื่อเข้าถึงพื้นที่ที่ประชาชนเดินทางไม่สะดวก
- เน้นสินค้าอุปโภคบริโภคและอุปกรณ์จำเป็นหลังน้ำลด
- ส่งเสริมผู้ประกอบการแฟรนไชส์ พร้อมประสานกระทรวงการคลังและสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา สนับสนุนค่าแฟรนไชส์
- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ร่วมกับ SME D Bank เพิ่มการเข้าถึงแหล่งทุนให้ผู้ประกอบการรายย่อย
นายเอกนิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลจะถอดบทเรียนจากเหตุอุทกภัยครั้งนี้อย่างเป็นระบบ โดยแต่งตั้ง นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะทำงาน เพื่อจัดทำแนวทางแก้ไขปัญหาระยะสั้นและระยะยาว
กระทรวงการต่างประเทศจะประสานความร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและการป้องกันอุทกภัยในระยะยาว ขณะเดียวกัน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมจัดแคมเปญสนับสนุนให้หน่วยราชการเดินทางไปจัดกิจกรรมและสัมมนาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดดังกล่าว