หุ้นไฟฟ้างานเข้า โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังไว้ใจอะไรไม่ได้เลยสักเรื่อง เพราะข้อมูลที่พรั่งพรูออกมาในแต่ละวัน ล้วนเป็นเรื่องที่ทำให้ต้องขบคิดตลอดเวลา ซึ่งรวมถึงการเคลื่อนตัวของดัชนีเมื่อถึงระดับหนึ่ง ควรเป็นจังหวะของการ “ซื้อ” หรือ “ขาย” มากกว่ากัน ก็เป็นเรื่องที่แฟนคลับต้องใช้หัวสมองในการคิดมากพอสมควรเหมือนกัน เดี๊ยนถึงอยากให้ทุกคนหันมาใช้ยุทธวิธี “ซอยถี่ยิบ” ไงล่ะค่ะ

*เนื่องจากของมันเห็นเต็มสองลูกตาว่า ตลาดหุ้นมีความผันผวนค่อนข้างสูง วันก่อนรูดลงไป 13 จุด แต่สุดท้ายกลับมาปิดบวกได้ 6 จุด ขณะที่วานนี้ดัชนีบวกไปเกือบ 10 จุด สุดท้ายดัชนีเหลือบวกแค่ 1.55 จุด ก่อนจะมาปิดที่ 1,390.17 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพเดิมๆ  “โมนิก้า” เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และภาพนี้ก็คงอยู่ต่อไปอีกพักใหญ่ๆ นะจะบอกให้

*ส่วนภาพที่จะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงในคราวนี้ ดันกลายเป็นหุ้นพลังงานทางเลือกชั้นแนวหน้าทั้งหลายแหล่ ว่ากันว่าตัวแปรที่ทำให้หลายเจ้าเกิดอาการก้นร้อนจนนั่งไม่ติด มันเกิดจากข่าวหลุดที่ออกมาจากปากผู้กำกับดูแลเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งมีดำริออกมาอย่างเป็นทางการว่า หากเจ้าไหนยังจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไม่ได้ (COD) เดี๋ยวจะทำการยึดใบอนุญาต(PPA)ให้ดูเป็นขวัญตาเจ้าค่ะ

*ข้อมูลตรงติ่งท้ายข้อความนี้แหละ..ที่ทำให้เกิดกระแสข่าวลือแพร่สะพัดไปชั่วนาตาปี พร้อมกับมีการเสริมเติมแต่งข้อมูลกันอย่างเมามัน เผอิญคนสวยอย่าง “โมนิก้า” มีนิสัยชอบสืบค้นข้อมูลมากกว่านั่งกระดิกเท้ารอให้ทุกอย่างเข้ามาหา จึงได้รู้ความจริงอีกด้านหนึ่งว่า  ในใบอนุญาตได้บอกถึงขอบเขตการจ่ายไฟฟ้าไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ใครทำไม่ทันเส้นตายปี 58 จะต้องถูกยึดใบอนุญาตพะยะค่ะ

*นั่นหมายความว่า ผู้บริหารบริษัทต่างๆ ย่อมรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี “โมนิก้า” ไม่จำเป็นต้องทำตัวแส่รู้เรื่องชาวบ้าน แต่สิ่งที่เม้าท์ได้เต็มปากเต็มคำในยามนี้คือ SUPER กลายเป็นเป้าโจมตีแรกที่ขาเม้าท์เอ่ยถึงมากสุด และชนวนเหตุที่ทำให้เชื่อว่ามีปัญหาแน่ๆ ล้วนมาจากจำนวนใบอนุญาตมากถึง 500 เมกะวัตต์ แต่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ไม่ถึง 100 เมกะวัตต์ หลายคนเลยมีอารมณ์ร่วมในทันที งานนี้จริงเท็จอย่างไร..ไม่มีใครรู้หรอก เพราะคนที่รู้ดีสุดในเที่ยวนี้คือ “เฮียจอม” เจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ IFEC ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่ถูกพาดพิงเต็มๆ  เพราะโครงการที่มีอยู่ในมือก็เยอะไม่ใช่ย่อย แต่ที่เวิร์คตามแผนงานมีแค่นิดเดียว งานนี้เลยมีคนออกมาฟันธงดังฉับว่าไม่รอดเหมือนกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นทรุดตัวลงมาอยู่ใต้ 10 บาท ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานล่าสุดวิ่งขึ้นมาปิดที่ 9.65 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่า 131 ล้านบาท ได้รับผลพวงจากประเด็นดังกล่าวเยอะหรือไม่? วันนี้รู้ผลนะคะ

*ส่วนในรายของ DEMCO ซึ่งแสดงผลขาดทุนแบบไม่คาดฝัน มันไม่ใช่เหตุบังเอิญอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้เคยมีข่าวเม้าท์ตามซอกตึกออกมาเป็นระยะว่า โครงการที่ห้วยบงมีปัญหามาพักใหญ่ๆ แต่ยังหาเจ้าภาพที่รับผิดชอบอย่างแท้จริงไมได้ ว่ากันว่า พาร์ตเนอร์ทั้ง 3 รายโยนกันไป โยนกันมา สุดท้ายเผือกร้อนมาตกอยู่ที่ “เฮียพงษ์ศักดิ์” เสียอย่างนั้น ก็เลยเป็นเรื่องขึ้นมาในทันที วานนี้หุ้นถึงรูดรับข่าวลงมาปิดที่ 10.20 บาท ลบไป 3.10 บาท หรือลงไป 23.30%  พร้อมกับถูกสังคมตั้งคำถามว่า ทุกอย่างจบแค่นี้ไหม?

*ผิดกับในรายของหุ้นสุดเลิฟ EA ภายใต้การกุมบังเหียน “น้องอมร” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้บริหารหนุ่มไฟแรง เพราะโครงการทุกอย่างในวันนี้เดินหน้าตามแผน บวกกับตัวเลขกำไรงวดล่าสุดก็ทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์ “โมนิก้า” ถึงกล้าแนะนำให้แฟนคลับหันมามองหุ้นตัวนี้เป็นประจำ เพราะมันเป็นอะไรที่จับต้องได้ทุกมิติ บวกกับราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ 24 บาท บวกไป 0.20 บาท มันทำให้หุ้นตัวนี้น่าสนใจมากขึ้นเป็นกองเชียวแหละ

*เช่นเดียวกับ 2 คู่ชู้ชื่น MTLS กับ SAWAD ต่างพากันทำnew high กันอย่างสนุกสนาน “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตเด็ดที่มาแรงสุดในยามนี้ และดุเหมือนว่า รายแรกจะทำลายอาถรรพ์แนวต้าน 20 บาท ด้วยการทะยานขึ้นมาปิดที่ 21 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 6% ส่วนรายหลังขยับขึ้นมาปิดที่ 48.25 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 5.50% มันเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำอย่างไม่ต้องสงสัยเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของหุ้น CPF หากมองในมุมของการลงทุนระยะยาว ย่อมเป็นหุ้นที่น่าช้อนซื้อเมื่ออ่อนตัวลงมาหนักๆ และยัง follow ได้ทุกช็อตเมื่อหุ้นขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเหตุการณ์ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ยืนยันแพตฟอร์ม w-shape  ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 22.20 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 6.70% ด้วยมูลค่า 1.90 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถึงมองว่า รอบนี้มีลุ้นยืนเหนือ 23 บาทนะจะบอกให้