
ดูดีมาก?
อย่างที่ “โมนิก้า” เคยเกริ่นนำให้ฟังเป็นเดือนว่า วงรอบของตลาดหุ้นไทยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีลักษณะเคลื่อนตัวแบบ M-Shape อย่างชัดเจน
อย่างที่ “โมนิก้า” เคยเกริ่นนำให้ฟังเป็นเดือนว่า วงรอบของตลาดหุ้นไทยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีลักษณะเคลื่อนตัวแบบ M-Shape อย่างชัดเจน และทุกครั้งที่ตลาดหุ้นดีดตัวแรงทีไร มักเป็นผลมาจากนักลงทุนคลายกังวลจากประเด็นร้อน อีฉันถึงเชื่อว่า การเล่นรอบคือทางเลือกที่ดีสุดในภาวะเช่นนี้ เพราะภาพการลงทุนในระยะสั้นดูดีมาก ส่วนภาพระยะกลาง และระยะยาว ไม่จำเป็นต้องพูดถึง เพราะมันไม่มีอะไรจะพูดถึงนะซี
โดยภาพดังกล่าวถูกตอกย้ำด้วยดัชนีที่เด้งแรงไปถึง 20 จุดเมื่อวันก่อน แต่วานนี้กลับอ่อนตัวลงตั้งแต่หัววัน ก่อนจะตีกลับไปในช่วงภาคบ่าย พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 1,115.69 จุด บวกไป 5.68 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.49 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” จึงอยากประเมินภาพการลงทุนต่อจากนี้จะดีขึ้นเพียงใด? เพราะการหลุดจากตำแหน่งของ “อุ๊งอิ๊ง” ผสมกับเรื่องเม็ดเงินจากกองทุน TESG กลายเป็นตัวแปรที่ทำให้หลายคนเชื่อว่า หุ้นไทยจะดีขึ้นเจ้าค่ะ
งานนี้จริงเท็จแค่ไหน? ไม่มีมีใครรู้ได้ เพราะต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ รวมทั้งต้องดูด้วยว่า มูลค่าการซื้อขายจะกลับมาหนาแน่นขนาดไหน? เพราะตรงนี้จะเป็นเครื่องยืนยันฐานรากของดัชนีที่บริเวณ 1,100 จุดมั่นคงเพียงใด? อีฉันถึงอยากให้แฟนคลับโฟกัสไปที่งบไตรมาส 2 จะออกมาดีกว่าที่คาดจริงไหม? เพราะจะเป็นแรงหนุนให้ตลาดหุ้นไปต่อสวย ๆ ผนวกกับการซื้อหุ้นวันนี้ต้องมองกันช็อตต่อช็อตว่า ตรงปกไหม?..อิอิอิ
เหมือนกับสถานการณ์ของหุ้นแบงก์ที่ชอบดีดตัวเวลาขึ้นไตรมาสใหม่ ก็เป็นช็อตที่เรียกความมั่นใจจากนักลงทุนได้มากโข เพราะเหมือนเป็นการส่งสัญญาณใหรู้ว่า สถานการณ์ไม่ได้แย่ลง และหุ้นแบงก์ที่อีฉันชอบเม้าท์ถึงบ่อย ๆ ก็คือ SCB เพราะมองจากมุมไหน ก็เหมาะต่อการลงทุน จึงอยากถามนักเล่นว่า การยืนปิดที่ระดับ 120 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.21 พันล้านบาท ท่ามกลาง PE 8.80 เท่าเสี่ยงไหมเอ่ย?
ส่วนรายที่พลิกล็อกสุด ๆ คงมองไปที่หุ้นขายไก่ขายหมูอย่าง CPF เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งมีข่าวออกมาว่า ผลงานไตรมาส 2 ออกมาดี พอข้ามคืนกลับมีเรื่องราคาไก่ราคาหมูลดฮวบเสียอย่างนั้น “โมนิก้า” เลยเกิดอาการมึนตึ้บในทันที พร้อมกับมีข้อสงสัยว่า การยืนปิดที่ระดับ 21.90 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 2.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 786 ล้านบาท น่าจะไม่ใช่โลว์เที่ยวนี้ และมีโอกาสทำโลว์ใหม่ เพราะไตรมาส 3 เป็นโลว์ซีซั่นพะยะค่ะ
สำหรับรายที่มาเรื่อย ๆ แบบเนียน ๆ ต้องยกให้กับ JMT เป็นลำดับถัดมา แถมในช่วงปลายเดือนก่อนยังยืนซึมอยู่ที่บริเวณ 7.80 บาท แต่วันนี้หุ้นขึ้นมายืนที่ระดับ 9.95 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 369 ล้านบาท น่าจะเกี่ยวข้องกับงบไตรมาส 2 ที่น่าจะกระเตื้องขึ้น ผนวกกับหลายคนมองว่า ราคาหุ้นลงมากเกินไป จึงทำให้ขาประจำหวนกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้งอะป่าว?
ทางด้าน MONO ที่หายเงียบไปพักใหญ่ ก็ได้จังหวะถีบตัวขึ้นแรงอีกครั้ง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1.72 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 8.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 215 ล้านบาท ก็เชื่อกันว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดสดบอลอังกฤษ ซึ่งเป็นสตอรี่หลักที่จะทำให้บริษัทกลับมาทำกำไรอย่างโดดเด่น แถมแมงลือเม้าท์มอยถึงยอดสมาชิกยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแบบนี้..น่าจะได้ลุ้นเห็น 2 บาทอีกครั้งกระมัง!
ตบท้ายกันที่หนูมาลี MALEE เพื่อชี้ให้เห็นว่า เขาเป็นคนรับโชค 2 ต่อ โดยโชคแรกเป็นเรื่องรับจ้างผลิตให้กับเนสท์เล่ ส่วนโชคต่อที่สองเป็นอานิสงส์จากการเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงของหุ้น IF ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์มองว่า หุ้นที่ทำน้ำมะพร้าวของไทยเทรดในระดับที่ต่ำเกินไป วานนี้จึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 6 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 5.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 77 ล้านบาทไงล่ะคะ
โมนิก้าและทีมงาน