TTB กาง 3 นวัตกรรม “ดิจิทัลโซลูชัน” ตอบโจทย์ลูกค้าธุรกิจ

TTB ชูนวัตกรรมดิจิทัลโซลูชันสำหรับลูกค้าธุรกิจ ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น บทพิสูจน์ความสำเร็จด้วยรางวัลธนาคารที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าธุรกิจแห่งปีไปครอง


ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการและดิจิทัลโซลูชันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น สามารถยืนหยัดได้ในทุกสถานการณ์และเติบโตได้อย่างมั่นคง ภายใต้การเป็นพันธมิตรของธนาคาร โดยธนาคารมุ่งเน้นเรื่องที่จะเปลี่ยนจากการทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการทางการเงินในรูปแบบเดิม มาเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับความไว้วางใจ ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาว และดูแลลูกค้าธุรกิจ และผู้เกี่ยวข้องแบบครบวงจร โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์บริการและดิจิทัลโซลูชัน แบ่งได้ออกเป็น 3 กลุ่มหลัก

1.Sufficient & Sustainable Funding – การสนับสนุนด้านเงินทุนที่เหมาะสมและเพียงพอ ทั้งในระยะสั้น และรองรับการเติบโตในระยะยาว เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจสามารถขยายธุรกิจและเติบโตอย่างยั่งยืน ตัวอย่างผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่น่าจับตามอง ได้แก่ การออกพันธบัตรสีเขียว (Green Bond) ซึ่งถือได้ว่า ทีเอ็มบีธนชาต เป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกที่ให้การสนับสนุนเงินทุนให้กับลูกค้าธุรกิจ ที่ต้องการพัฒนาโมเดลธุรกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน โดยการออก “พันธบัตรสีเขียว” (Green Bond) มูลค่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,850 ล้านบาท) ในปี 2561

นอกจากนี้ในภาคธุรกิจมีขอใช้วงเงินเพื่อการลงทุน ในด้านโครงการพลังงานหมุนเวียน และโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันธนาคารได้มีการปล่อยสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) ไปแล้ว มูลค่ารวมกว่า 21,000 ล้านบาท ให้กับ 47 โครงการ ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย และการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

2.Operational Excellence – การส่งมอบผลิตภัณฑ์ บริการ และดิจิทัลโซลูชัน ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารจัดการธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าให้สะดวก รวดเร็ว และง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่ลูกค้าต้องเจอ และช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจแบบ B2B หรือ B2C ก็ตาม

2.1 ttb fleet card หรือ บัตรเครดิตน้ำมัน โซลูชันที่ช่วยบริหารจัดการค่าน้ำมันอย่างเต็มประสิทธิภาพ บัตรน้ำมันจะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายได้จริง เพราะสามารถกำหนดวงเงิน ระบุประเภทน้ำมัน และสถานีบริการที่ต้องการให้ใช้บริการได้ นอกจากนี้ ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถเช็กยอดเองได้ง่ายๆ ผ่านระบบ ttb web fleet service ซึ่งในปีที่ผ่านมามีบริษัทขนส่งขนาดใหญ่ ได้ใช้โซลูชันนี้ในการบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในกลุ่มเอสเอ็มอี ธนาคารได้ขยายเครดิตไลน์ มูลค่ารวม 200 ล้านบาท ให้กับเอสเอ็มอี  sub-contractor ให้เข้าถึงเงินทุนเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย

2.2 ttb digital invoice management หรือบริการเรียกเก็บค่าสินค้าและบริการ รวมถึงการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ จะเห็นได้ว่าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในซื้อสินค้ามากขึ้น ทำให้หลายธุรกิจต้องปรับตัวเปลี่ยนมาใช้ช่องทางขายผ่านออนไลน์มากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ธนาคารได้เล็งเห็นโอกาสจึงได้พัฒนาโซลูชัน ที่ตอบโจทย์การขายผ่านออนไลน์ให้กับลูกค้าธุรกิจ ซึ่ง ttb digital invoice management เป็นบริการเรียกเก็บค่าสินค้าและบริการ รวมถึงการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ โดยระบบของธนาคารจะจัดเตรียมใบแจ้งหนี้ และจัดส่งเอกสารให้ลูกค้าทาง SMS / Email เพิ่มความสะดวกสบาย และทราบผลการชำระเงินทันที พร้อมส่งหลักฐานยืนยันการรับชำระเงินให้กับคู่ค้า สะดวก ง่าย ปลอดภัย รู้ทันทีเมื่อเงินเข้า

2.3 ttb multi-currency account หรือ บัญชีสำหรับบริหารหลายสกุลเงินที่ดีที่สุด ส่งมอบประสบการณ์แบบดิจิทัล end-to-end เต็มรูปแบบ สะดวก ง่าย ครบ จบในบัญชีเดียว ใน 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจนำเข้าและส่งออกไทยเองก็ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนมาก การซื้อ-ขาย หรือทำธุรกรรมต่างๆ ยังคงเน้นใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก ซึ่งมีความผันผวนสูงเมื่อเทียบกับสกุลเงินท้องถิ่น ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มหันมาซื้อขายแลกเปลี่ยนด้วยสกุลเงินท้องถิ่นมากขึ้น แต่ลูกค้าธุรกิจยังคงต้องประสบปัญหาความยุ่งยากในการใช้งาน เนื่องจากหนึ่งบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศรองรับได้เพียงหนึ่งสกุลเงิน

ดังนั้นผู้ประกอบการมีคู่ค้าอยู่หลายประเทศ จำเป็นต้องเปิดบัญชีหลายบัญชี จึงทำให้ไม่คล่องตัวในการใช้งาน ทีเอ็มบีธนชาต ถือเป็นธนาคารแรกของไทย ที่ต้องการช่วยเสริมความแข็งแกร่ง และเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ประกอบการ จึงได้พัฒนาบัญชีสำหรับบริหารหลายสกุลเงินที่ดีที่สุด “ttb multi-currency account” ส่งมอบประสบการณ์แบบดิจิทัล end-to-end เต็มรูปแบบ สะดวก ง่าย ครบ จบในบัญชีเดียว ที่สามารถซื้อ ขาย รับ จ่าย ได้ถึง 11 สกุลเงิน ผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งของธนาคาร

3.การส่งเสริมคุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดีให้กับพนักงานของบริษัทของลูกค้าผ่านบริการ ttb payroll plus ซึ่งเป็นบริการจ่ายเงินเดือน และดูแลสวัสดิการพนักงานแบบครบวงจร เพราะเชื่อว่าพนักงานคือกลไกสำคัญของการเติบโตทางธุรกิจของลูกค้า โดย ttb payroll plus ช่วยให้การจ่ายเงินเดือนพนักงานเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งและโมบายแอปพลิเคชัน ที่สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งการจ่ายเงินเดือนพนักงาน เบี้ยเลี้ยง และค่าจ้างต่าง ๆ พร้อมด้วยบริการเสริมพิเศษ 4 พลัส ได้แก่

3.1 พนักงานจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการใช้บัญชีของธนาคาร พร้อมรับความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุ รวมถึงได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากบัญชีเพื่อการออม และการขอสินเชื่อ ตลอดจนสิทธิพิเศษในการลงทุน เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น

3.2 ประกันกลุ่มเพื่อให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพและอุบัติเหตุ สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ในการซื้อประกันกลุ่มในราคาพิเศษ พร้อมทั้งการเลือกจ่ายเบี้ยแบบรายเดือน และการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

3.3 บริการด้านบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้แก่พนักงานโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการวางแผนการออมในระยะยาวให้พนักงานมีเงินเพียงพอไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณ รวมถึงยังได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษี

3.4 การบริหารจัดการด้านงานบุคคลแบบดิจิทัล (Digital HRM) ระบบที่ช่วยในการบริหารจัดการงานบุคคลแบบครบวงจรผ่านช่องทางดิจิทัล

นอกจากนี้การทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าธุรกิจทั้งหมดของธนาคาร ยังสามารถทำได้ผ่าน ttb business one ซึ่งเป็นอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งและโมบายแอปพลิเคชัน สำหรับลูกค้าธุรกิจโดยเฉพาะ ที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าธุรกิจทำธุรกรรมออนไลน์ได้ครบ จบในระบบเดียว ใช้งานง่าย ด้วยความปลอดภัยระดับมาตรฐานสากล โดย ttb business one ถือได้ว่าเป็น ดิจิทัลแพลตฟอร์มเดียวของลูกค้าธุรกิจในประเทศไทย ที่สามารถทำธุรกรรมได้ทุกประเภทผ่านระบบเดียว ทั้ง โอน-จ่าย ภายในและต่างประเทศ และการเรียกดูข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ตามสิทธิที่กำหนด

ทั้งนี้จากความทุ่มเทแรงกายแรงใจ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และดิจิทัลโซลูชัน ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง ส่งผลให้ ทีเอ็มบีธนชาต คว้ารางวัล “Best Corporate Bank Award 2022” จาก Asiamoney นิตยสารการเงินชั้นนำในระดับภูมิภาคเอเชีย เป็นบทพิสูจน์ของความมุ่งมั่นของธนาคาร ที่ช่วยให้ลูกค้าผ่านวิกฤติในช่วงโควิด 19 ในปีที่ผ่านมา พร้อมเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นได้เพราะผู้นำทีมที่แข็งแกร่งอย่าง นายศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต พร้อมด้วยสามแม่ทัพใหญ่ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับลูกค้าธุรกิจโดยเฉพาะ ได้แก่ นายโอฬาร ศุกลวณิช รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อธุรกิจ,

นางสาวบุษรัตน์ เบญจรงคกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ และนางกนกพร จูฑา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกรรมทางการเงินภายในประเทศ ที่ร่วมกันมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และดิจิทัลโซลูชันใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าธุรกิจอย่างแท้จริง และพร้อมเคียงข้างลูกค้าในทุกสถานการณ์ ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ทั้งในวันนี้และอนาคต ผ่านดิจิทัลโซลูชันที่ครบครัน ใช้ง่าย และตอบโจทย์ลูกค้าธุรกิจอย่างแท้จริง เพื่อช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของลูกค้าธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น และเติบโตอย่างยั่งยืน

Back to top button