UOB จับมือ จุฬา ส่งมอบ “Virtual Account” ยกระดับระบบจัดการเงินทุนวิจัย

 UOB จับมือ จุฬาลงกรณ์ปั้นระบบจัดการทุนวิจัยยุคใหม่ ด้วยโซลูชัน Virtual Account เสริมความโปร่งใส-ลดขั้นตอน เพิ่มความคล่องตัวสู่ยุคดิจิทัล


ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย หรือ UOB ประกาศความร่วมมือกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อส่งมอบบริการบริหารจัดการเงินสดแบบดิจิทัล Virtual Account เพิ่มประสิทธิภาพในการรับ-จ่ายเงินทุน สำหรับงานวิจัย และยกระดับงานวิจัยจุฬาฯ สู่ยุคดิจิทัล

นางวีระอนงค์  จิระนคร ภู่ตระกูล กรรมการผู้จัดการ Deputy CEO และ Wholesale Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการนำความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการเงินสดของธนาคาร มาช่วยยกระดับมาตรฐานของการทำงานวิจัยของทางมหาวิทยาลัย โซลูชัน Virtual Account ได้รับการออกแบบมาให้ลดขั้นตอนการรับ-จ่ายเงินทุน สำหรับงานวิจัย อำนวยความสะดวกให้งานวิจัยต่าง ๆ ดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว และคล่องตัวมากขึ้น

ปัจจุบัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีนักวิจัยอยู่ประมาณ 2,800 คน ในแต่ละปี มีการทำโครงการวิจัยกว่า 400โครงการ อุปสรรคสำคัญของการดำเนินโครงการวิจัยที่ทางจุฬาฯ ประสบก็คือ ความล่าช้าในการระบุที่มาของเงินทุนวิจัย ที่เข้ามาจากหลากหลายช่องทาง โดยต้องใช้ระยะเวลาถึง 1-3 เดือนในการกระทบยอดในบัญชีส่วนกลาง เพื่อระบุที่มาของเงินทุน ทำให้เกิดความล่าช้าในการนำจ่ายให้กับนักวิจัยของแต่ละโครงการ

ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในฐานะสถาบันการศึกษาของประเทศ หนึ่งในเป้าหมายของเรา คือช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ผ่านโครงการศึกษาวิจัยต่างๆ ของทางมหาวิทยาลัย การบริหารจัดการทุนวิจัยผ่านระบบ Virtual Account ของธนาคารยูโอบี ช่วยลดขั้นตอนการทำงานเอกสาร และทำให้เกิดความโปร่งใส เนื่องจากนักวิจัยสามารถตรวจสอบกระบวนการเบิกจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังได้รับเงินทุนรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้สามารถพัฒนางานวิจัยได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ โซลูชันบริหารจัดการเงินสดแบบดิจิทัล Virtual Account เป็นทางเลือกสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ เช่น สถาบันการศึกษา ที่ได้ประโยชน์จากการปรับใช้ดิจิทัล (Digital Transformation) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนในการดำเนินงานด้านบัญชี ทำให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากขึ้น

Back to top button