UMI เดินหน้า ESG ตั้งเป้าลดคาร์บอน 20% ภายในปี 73

UMI ประกาศแนวทาง ESG ตั้งเป้าลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20% ภายในปี 2573 มุ่งสู่การเป็นองค์กร Net Zero Emission ปี 2608 เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน


นางสาวรติรัตน์ เหล่าวิวัฒน์วงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ UMI เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจขององค์กรว่า ในสภาวะโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม หรือแม้แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ “กลยุทธ์ความยั่งยืน” กลายเป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจที่ทุกองค์กรต้องดำเนินการอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญอย่างมากกับแนวคิด ESG โดยบูรณาการเข้ากับกลยุทธ์ธุรกิจอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรสามารถเติบโตได้อย่างสมดุล พร้อมสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียในทุกมิติ

ขณะที่ บริษัทฯได้กำหนดเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน ผ่านแผนระยะยาวในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ลง 20% ภายในปี 2030 และมุ่งสู่การเป็นองค์กร Carbon Neutral ภายในปี 2050 ก่อนจะบรรลุ Net Zero Emission อย่างสมบูรณ์ภายในปี 2065

โดยในปี 2024 ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถลดการปล่อย GHG ลงได้ถึง 14.89% ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในช่วงต้น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและประสิทธิภาพของมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่นำไปปฏิบัติจริงในระดับโรงงาน นอกจากนี้ กลุ่มบริษัท UMI ยังได้รับการรับรอง Green Industry ระดับ 2 – 4 และผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมจากกระทรวงอุตสาหกรรม

สำหรับด้านการผลิต UMI Group ได้นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อลดการใช้ทรัพยากรและมุ่งสู่เป้าหมาย Zero Waste โดยสามารถนำน้ำเสียกลับมาใช้ในกระบวนการผลิต 100% เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้วัตถุดิบและพลังงานอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการผลิตกระเบื้องรุ่น Living Green” ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัสดุรีไซเคิลถึง 85% ตามหลัก 3R (Reduce, Reuse, Recycle)

ล่าสุด บริษัท ที.ที. เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ TTC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ UMI ได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัท โซลาร์ พีพีเอ็ม จำกัด ในการติดตั้ง Solar Roof เพื่อผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และสนับสนุนการพัฒนาพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในมิติทางสังคม บริษัทฯ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงานและชุมชน โดยมุ่งเน้นการจ้างงานที่เป็นธรรม การดูแลสุขภาพและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน รวมถึงการพัฒนาทักษะผ่านระบบ e-Learning สำหรับการมีส่วนร่วมกับชุมชนบริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่น มีการควบคุมการปล่อยของเสียให้อยู่ในระดับต่ำกว่าค่ามาตรฐาน และเข้าร่วมกิจกรรมในโอกาสต่าง ๆ พร้อมสานต่อโครงการ “ดูราเกรส เราช่วยกัน” เพื่อมอบกระเบื้องให้แก่โรงเรียนและสถานที่สาธารณะในพื้นที่ห่างไกล พร้อมพัฒนากระเบื้อง Healthy Tiles” เพื่อส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตผู้บริโภค

ด้านธรรมาภิบาล บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อย่างครบถ้วน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินและข้อมูลด้าน ESG ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด พร้อมให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA และมีนโยบายต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันอย่างชัดเจน

ทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งในระดับสากลและระดับประเทศ อาทิ ISO 9001 มอก. และ MiT (Made in Thailand) พร้อมทั้งบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับอยู่ในกลุ่ม ESG100

โดยสถาบันไทยพัฒน์ในปี 2015 ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจขององค์กรในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างคุณค่าเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป

 “UMI ไม่ได้มอง ESG เป็นเพียงแนวทาง แต่คือหัวใจของการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กร เรามุ่งมั่นสร้างสมดุลในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ บนพื้นฐานของธรรมาภิบาล เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง” นางสาวรติรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button