
SKIN หุ้นน้องใหม่ mai ลงสนามเทรดพรุ่งนี้ ชูศักยภาพธุรกิจความงาม
SKIN เตรียมเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ mai วันพรุ่งนี้ มั่นใจโอกาสธุรกิจความงามเติบโตสูง คาดปี 68 สร้าง New S-Curve ตามเป้าหมาย
นายชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จํากัด (มหาชน) หรือ SKIN ผู้พัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามแบรนด์ไทยที่เข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่ เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าการเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 24 ก.ย. นี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
เนื่องจากธุรกิจของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถสร้าง New S-Curve ของการเติบโตที่ชัดเจน จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวน 20 SKUs การขยายจุดจำหน่ายที่หลากหลาย ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ และการขยายฐานลูกค้าใหม่ในวงกว้าง ผ่านการทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพภายหลังการระดมทุน IPO
สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือน ปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 95.30 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 123.81 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการปรับรูปแบบการขายเป็นขายขาดมากขึ้น ส่งผลให้รายได้จากการฝากขายลดล
อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 134.76% อยู่ที่ 7.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.25 ล้านบาท เป็นผลจากการลดลงของต้นทุนในการจัดจำหน่าย และค่าส่งเสริมการขาย สอดคล้องกับการปรับสัดส่วนงบประมาณสำหรับช่องทางสื่อสารการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน กล่าวว่า SKIN จะเป็นหุ้นไอพีโอที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ด้วยจุดเด่นการเป็นหุ้นที่มีการเติบโตสูง (Growth Stock) ทั้งในแง่ของการขยายตลาดและผลประกอบการ จากความแข็งแกร่งของแบรนด์ Skinsista และ Dermie ที่เข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่เป็นอย่างดี ขณะที่ตลาดเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในประเทศยังขยายตัวต่อเนื่องในทุกภาวะเศรษฐกิจ จะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนสำคัญให้บริษัทสามารถสร้าง New S-Curve ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน กล่าวว่า SKIN เป็นบริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง การระดมทุนผ่านตลาดทุนในครั้งนี้จะทำให้ SKIN สามารถสร้างความโดดเด่นในธุรกิจเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และจะเป็นหุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST กล่าวว่า ราคาไอพีโอของ SKIN ที่ 1.20 บาท/หุ้น พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earning : P/E) จากผลประกอบการ 4 ไตรมาสล่าสุด มีค่าเท่ากับ 12 เท่า ซึ่งมีส่วนลดจากค่า P/E ของอุตสาหกรรม ถือเป็นราคาที่เหมาะสมและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน เนื่องจาก SKIN เป็นหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตดี ขณะที่ภาพรวมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีสัญญานปรับตัวดีขึ้น จะทำให้ SKIN เป็นหุ้นน้องใหม่ที่น่าจับตามองและมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องในตลาด mai