หุ้นกลุ่มแบงก์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ณ เวลา 10.18 น. ราคาหุ้น ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK อยู่ที่ 90.75 บาท บวก 3 บาท หรือ 3.42% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 373.62 ล้านบาท ราคาหุ้น ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB อยู่ที่ 70 บาท บวก 2.50 บาท หรือ 3.70% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 332.88 ล้านบาท ราคาหุ้น ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL อยู่ที่ 97.75 บาท บวก 2 บาท หรือ 2.09% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 243.46 ล้านบาท ราคาหุ้น บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO อยู่ที่ 71.25 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 2.15% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 136.47 ล้านบาท ราคาหุ้น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB อยู่ที่ 11.70 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.54% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 94.22 ล้านบาท ราคาหุ้น ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB อยู่ที่ 0.81 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 2.53% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 32.46 ล้านบาท ราคาหุ้น บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP อยู่ที่ 32.50 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 2.36% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 47.81 ล้านบาท ราคาหุ้น ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP อยู่ที่ 41 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.86% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 67.90 ล้านบาท ราคาหุ้น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY อยู่ที่ 19.30 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 1.05% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.45 ล้านบาท ราคาหุ้น บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG อยู่ที่ 0.91 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 3.41% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 0.62 ล้านบาท ราคาหุ้น ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT อยู่ที่ 0.42 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 2.44% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 0.09 ล้านบาท โดย บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ถึงแม้ข่าวฟิทช์ ลดเครดิตแบงก์ไทยซึ่งได้แก่ BBL, KBANK, SCB โดยลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว จาก BBB+ เป็น BBB ทั้ง 3 ธนาคาร แต่ยังคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ "AA+" (tha) จะถือเป็นข่าวลบ แต่ข่าวที่แบงก์ชาติเตรียมลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูลดลงครึ่งหนึ่งเหลือ 0.23% ของยอดเงินฝาก ถือว่าเป็นข่าวบวกที่มีน้ำหนักที่มากกว่า เนื่องจากเงินฝากถือเป็นแหล่งเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดของระบบธนาคาร เฉลี่ยราว 92% การปรับลดดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนธนาคารได้มากกว่า ตามตารางด้านล่าง ทั้งนี้ กลุ่มธนาคารยังคงเผชิญกับปัจจัยที่ท้าทาย ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 ลูกหนี้ที่คาดว่าจะมีปัญหาเป็นจำนวนมาก แนวโน้มดอกเบี้ยขาลง รวมถึงพอร์ตลงทุนของธนาคาร อย่างไรก็ตาม ธปท.ก็มีมาตรการหลายๆ อย่างเข้ามาช่วยเหลือทั้งลูกหนี้และธนาคารเพื่อบรรเทาภาวะการณ์ที่เลวร้ายดังกล่าว รวมถึงการลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟู เพื่อช่วยลดต้นทุนของธนาคาร แต่จากภาวะกระทบโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจทั่วโลกยังยืดเยื้อ แนะเพียง “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น TISCO และ KKP โดย TISCO ซึ่งกำลังจะขึ้น XD @7.75 บ.27 เม.ย.นี้ คิดเป็น Dividend Yield ถึง 11% และ KKP ซึ่งจะ XD @ 2.75 บ. 10 เม.ย.นี้ คิดเป็น Dividend Yield 6.8% บวกกับแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงจะส่งผลดีกับ Spread ของทั้ง 2 ธนาคารด้วย ด้าน บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ลดเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือ FIDF จากปีละ 0.46% เหลือ 0.23% ของฐานเงินฝาก 11.9 ล้านล้านบาท จะช่วยลดต้นทุนที่แบงก์ต้องจ่ายได้ปีละ 5 หมื่นล้านบาท รวม 2 ปี 1 แสนล้านบาท และยังช่วยเพิ่ม NIM ของธนาคารในระดับ 0.2% ผลกระทบเชิงบวกจะเห็นได้จากธนาคารขนาดใหญ่เนื่องจากมีฐานเงินฝากที่ใหญ่กว่า