กานติมา เลอเลิศยุติธรรม

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เปิดเผยว่า วันที่ 1 ตุลาคมของทุกปีถือเป็นวันครบรอบการให้บริการของบริษัท โดย AIS เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2532 และปีนี้ครบรอบ 35 ปี ก้าวสู่ปีที่ 36 ของการดำเนินงาน ซึ่งตลอด 35 ปีที่ผ่านมา AIS เริ่มต้นจากการเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ 1G และ 2G ภายใต้สัมปทานกับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ก่อนพัฒนาต่อเนื่องผ่านการประมูลคลื่นความถี่ 3G ในปี 2544 และเข้าสู่บริการ 4G ในปี 2559 จากการประมูลคลื่น 1800 และ 900 MHz รวมถึงการประมูลคลื่น 700 MHz สำหรับบริการ 5G ในระยะถัดมา ทั้งนี้ในปี 2557 หลังจาก นายสมชัย ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS ได้ประกาศเปลี่ยนบทบาทจาก Mobile Operator สู่ Digital Service Provider โดยเปิดให้บริการ AIS Fibre และขยายสู่ธุรกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ ต่อมาในปี 2566 บริษัทได้ควบรวมกิจการกับ 3BB ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายตลาดบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต และในปี 2567 ได้ลงทุนด้าน Data Center และ Cloud Technology เพื่อตอบโจทย์การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลไทย นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน AIS กำลังก้าวสู่การเป็น “Cognitive Tech” หรือผู้ให้บริการดิจิทัลที่ชาญฉลาดมากขึ้น โดยเน้นการพัฒนาบริการที่สอดคล้องกับทั้งการดำเนินชีวิตส่วนตัวและการทำงานของผู้บริโภค เพื่อให้คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยีและบริการดิจิทัลอย่างครบวงจร พร้อมยืนยันว่า AIS จะยังคงยืนหยัดอยู่เคียงข้างสังคมไทยต่อไปในทุกช่วงเวลา “AIS เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง โดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) อยู่ในระดับสูงสุดลำดับ 2–3 ของประเทศมาโดยตลอด แม้ในช่วงที่มีความผันผวนของตลาด บริษัทก็ยังสามารถรักษาสถานะและสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ผ่านนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ต่อเนื่อง” นายสมชัย กล่าว ทั้งนี้ ADVANC ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้งภาคองค์กรและผู้ใช้บริการรายบุคคล โดยกว่า 70% ขององค์กรขนาดใหญ่ในประเทศเป็นลูกค้าของ AIS ขณะที่ผู้ใช้บริการทั่วไป รวมถึงกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ต่างให้การสนับสนุนบริษัทอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการในทุกระดับ นอกจากธุรกิจหลักแล้ว AIS ยังดำเนินโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ AIS Academy for Thais ที่มุ่งพัฒนาความรู้ด้านดิจิทัลแก่ประชาชน เพื่อสร้างทักษะ DQ และเสริมความตระหนักรู้ด้าน Cyber Wellness ให้คนไทยสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายสมชัยย้ำว่า นี่คือบทบาทที่ AIS ยึดมั่นในการอยู่เคียงข้างสังคมไทยมาตลอด 35 ปี นายสมชัย กล่าวอีกว่า การครบรอบ 35 ปีในปีนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ โดย AIS จะประกาศวิสัยทัศน์ก้าวสู่ “Cognitive Tech” ซึ่งเป็นการยกระดับจาก Digital Service Provider ไปสู่ผู้ให้บริการดิจิทัลอัจฉริยะที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งและครอบคลุมมากขึ้น ถือเป็นก้าวใหม่ของบริษัทที่จะขับเคลื่อนทั้งธุรกิจและสังคมไทยไปพร้อมกัน สำหรับวิสัยทัศน์ใหม่ของบริษัท ภายใต้แนวคิด “Cognitive Tech” ที่มุ่งขับเคลื่อนสังคมไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน โดยยึดแนวทางการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG (Environment, Social, Governance) ควบคู่กับการสร้างความร่วมมือในระบบนิเวศและพันธมิตรทางธุรกิจ นายสมชัย ระบุอีกว่า คำสำคัญของวิสัยทัศน์ AIS คือ “Sustainable” และ “Ecosystem & Partnership” ทุกผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมทางการตลาดต้องดำเนินไปโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และเติบโตอย่างมั่นคง พร้อมกับการจับมือพันธมิตรที่แข็งแกร่งในแต่ละด้าน เพื่อสร้างคุณค่าร่วมกันอย่างแท้จริงสำหรับพันธกิจหลักของบริษัท คือ “เติมเต็มชีวิตและธุรกิจด้วยความมั่นใจในโครงข่ายดิจิทัลล้ำสมัยและประสบการณ์เหนือระดับ” โดยยึด 3 แกนหลัก ได้แก่ 1.Trust Connectivity – โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เชื่อมต่ออย่างเสถียรและปลอดภัย 2.Digital Innovation – การสร้างนวัตกรรมดิจิทัลใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งาน 3.Superior Experience – มอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายแก่ลูกค้า โดย AIS ยังคงรักษาความแข็งแกร่งในธุรกิจหลัก ได้แก่ บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และลูกค้าองค์กร ขณะเดียวกันได้วางรากฐานการเติบโตใหม่ (Growth Engine) ผ่าน 3 ธุรกิจสำคัญ ได้แก่ Fixed Broadband (Fibre) Entertainment ซึ่งถูกยกระดับจาก Value-added service ไปสู่ Entertainment Platform ระดับประเทศ Financial Services โดยร่วมมือกับพันธมิตร เช่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เพื่อเตรียมยื่นขอใบอนุญาตดำเนินธุรกิจทางการเงินเต็มรูปแบบจากธนาคารแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ AIS ยังเดินหน้าลงทุนใน Data Center และ Cloud Infrastructure รวมถึงการพัฒนาทักษะบุคลากร (People) เทคโนโลยี (IT) และเครือข่าย (Network) เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการออกแบบสินค้าและบริการ นายสมชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ตลอด 35 ปีที่ผ่านมา AIS อยู่เคียงข้างคนไทยเสมอ และต่อจากนี้จะมุ่ง “เติมพลังอนาคตของไทย” ด้วยเครือข่ายอัจฉริยะและบริการดิจิทัลที่สร้างสรรค์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการทำงานของผู้บริโภคอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจครั้งใหญ่และการสร้างความยั่งยืนในระยะยาว AIS ได้แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงเพิ่มเติมเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง โดยประกอบด้วย 1.นายปรัธนา ลีลพนัง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านปฏิบัติการ แม่ทัพแนวหน้า ผู้วางรากฐานธุรกิจหลักให้มั่นคง ทั้งบริการสื่อสารและอินเทอร์เน็ต ให้พร้อมรองรับทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของคนไทย ภายใต้การขับเคลื่อนของเขา เครือข่ายจึงไม่ใช่แค่โครงสร้างพื้นฐาน แต่คือ “พลังรองรับการเติบโตของชาติ” ที่เชื่อถือได้ทุกวัน 2.นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการเงิน ผู้นำวิสัยทัศน์อนาคต ผู้วางยุทธศาสตร์องค์กรสู่ Next S-Curve ผลักดันธุรกิจใหม่ให้เดินหน้า เติบโตยั่งยืน ด้วยกรอบคิดที่สมดุล เพื่อพาเอไอเอสก้าวสู่ “มิติธุรกิจใหม่” อย่างมั่นคง 3.นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร ผู้นำเบื้องหลังพลังคน สร้างรากฐาน “คน–วัฒนธรรม–ความยั่งยืน” ให้แข็งแกร่ง วางยุทธศาสตร์คนและองค์กรที่ขับเคลื่อนต่อเนื่อง ต่อยอดสู่แนวทางความยั่งยืนคู่สังคม ให้ทุกความสำเร็จของเอไอเอสสะท้อนกลับไปเป็นโอกาสของสังคมไทย นายธีร์ เปิดเผยว่า ตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา แม้จะเผชิญสถานการณ์ทั้งที่เป็นบวกและลบ บริษัทสามารถบริหารจัดการธุรกิจให้แข็งแกร่งและสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงแก่ผู้ลงทุน โดยรักษานโยบายจ่ายเงินปันผลที่เหมาะสม และควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง ไม่พึ่งพาการกู้ยืมมากเกินไป ส่งผลให้สามารถผ่านวิกฤตเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้อย่างแข็งแรง ปัจจุบันได้รับการจัดอันดับเครดิตจาก Fitch Ratings ในประเทศที่ระดับ AAA(tha) และจาก S&P Global ที่ระดับ BBB+ ซึ่งถือเป็นระดับ Investment Grade เทียบเท่าความน่าเชื่อถือของประเทศไทย นอกจากการพัฒนาบริการโทรคมนาคมหลักให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง AIS ยังขยายธุรกิจเพื่อครอบคลุมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในหลายมิติ เช่น ด้านคอนเทนต์และความบันเทิง (Video, Digital Content) รวมถึงการให้บริการบรอดแบนด์เข้าถึงครัวเรือนกว่า 5 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายมอบทั้งการสื่อสาร ความสะดวก และความสุขแก่ลูกค้าและครอบครัว ด้านบริการการเงิน AIS ได้ร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เพื่อจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบ Virtual Bank ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเชื่อว่าจะกลายเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีฐานลูกค้ามากที่สุดในประเทศ และสามารถตอบโจทย์ประชาชนที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงินอย่างเต็มที่ นายปรัธนา ลีลพนัง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านปฏิบัติการ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 35 ปี AIS ได้เปิดตัวแคมเปญ “12 ว้าว 12 สัปดาห์” เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้า โดยมอบสิทธิพิเศษและรางวัลตลอด 12 สัปดาห์ต่อเนื่อง ประเดิมสัปดาห์แรกด้วยการมอบรถยนต์เป็นรางวัลใหญ่ และยังมีกิจกรรมเซอร์ไพรส์พิเศษในสัปดาห์ถัด ๆ ไป พร้อมกันนี้ AIS จะเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า พร้อมยกระดับมาตรฐานการให้บริการ เพื่อให้ AIS ไม่ใช่เพียงผู้ให้บริการอันดับหนึ่งในประเทศ แต่ยังเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจลูกค้าภายใต้แนวคิด “อุ่นใจทุกโมเมนต์” และสร้างมาตรฐานใหม่ของการให้บริการเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพสูงที่สุด