ข่าวชายแดนไทยกัมพูชา

ผู้สื่อข่าวรายงาน (28 ก.ย. 68) นางสาวแนน บุณย์ธิดาสมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทยเปิดเผยว่า พรรคภูมิใจไทย ได้สรุปเนื้อหานโยบายรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่จะมีการอภิปรายใน รัฐสภา วันที่ 29 - 30 กันยายน 2568 โดยนำนโยบายด้านต่างๆมาสรุปให้กระชับได้ใจความสู่เป้าหมาย "4 เดือน 4 ภารกิจหลัก" 4 เดือนแก้ 4 ภัย คืนความมั่นใจให้ประเทศ อาทิ ภัยเศรษฐกิจ, ภัยความมั่นคง, ภัยธรรมชาติ และภัยสังคม 1.) นโยบายเศรษฐกิจลดค่าครองชีพ ลดรายจ่ายด้วย โครงการ "คนละครึ่งพลัส" ส่งเสริมพลังงานทดแทน ลดค่าใช้จ่ายขนส่งและเดินทาง แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ลดต้นทุนและป้องกันสินค้าลักลอบนำเข้า 2.) นโยบายความมั่นคงและการต่างประเทศรัฐบาลจะใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน เช่น กรณีพิพาท ไทย-กัมพูชา 3.) นโบายแก้ภัยพิบัติและช่วยเหลือประชาชนปรับปรุงระบบเตือนภัย และมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน เปิดเผย ตรวจสอบได้ 4.) นโยบายป้องกันปัญหาสังคมและอาชญากรรมปราบปรามยาเสพติด การพนันออนไลน์ และเครือข่ายสแกมเมอร์อย่างจริงจัง เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ต้องไม่มีกาสิโน โดยนโยบายทั้ง 4 ภารกิจหลักถือเป็นเรื่องเร่งด่วนทั้งหมด แต่สิ่งที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุด คือ ภัยเศรษฐกิจและภัยความมั่นคง โดยในส่วนของภัยเศรษฐกิจ มีข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะจากบุคลากรของพรรคภูมิใจไทย รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานที่ดูแล ซึ่งประเด็นสำคัญที่จะต้องดำเนินการภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาคือ โครงการ “คนละครึ่งพลัส” อย่างไรก็ตาม แต่รายละเอียดเชิงลึก รวมถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานทั้งหมดจะต้องรอให้นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ ขณะที่ประเด็น ภัยความมั่นคง นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำมาโดยตลอดตั้งแต่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่าการรักษาอธิปไตยของชาติและการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนไทยต้องมาก่อน ยกตัวอย่างข้อพิพาทตลอดแนวชายแดน ไทย–กัมพูชา ที่ยังคงอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้กำกับดูแลและตัดสินใจอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ทั้งนี้ เมื่อสอบถามว่าทางพรรคภูมิใจไทย ได้จัดตั้ง “องครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรี” หรือไม่ เนื่องจากฝ่ายค้านอาจพยายามกดดันมากที่สุด นางสาวแนน ตอบว่าการแถลงนโยบายเป็นกิจกรรมของ สมาชิกรัฐสภาที่มีสิทธิออกความเห็น ทุกอย่างดำเนินไปตามกรอบวาระแถลงนโยบาย หากจะเรียกว่าเป็นองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรีก็คงไม่ถูกต้อง สิ่งที่สำคัญคือการ ปฏิบัติตามเนื้อหาและข้อบังคับของการประชุม เป็นหลัก