งบปี 69

ผู้สื่อข่าวรายงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเมืองที่กำลังเกิดขึ้นมองว่าระบบประชาธิปไตยบิดเบี้ยว ไม่เป็นสิ่งที่ควรจะทำ เนื่องมาจากการตัดสินใจ พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน ร่วมมือจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้เกิดภาพการเมืองที่ซับซ้อน โดยพรรคประชาชนประกาศโหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ร่วมรัฐบาลทำให้การเมืองยังคงแบ่งเป็น 3 ฝ่าย ขณะที่ พรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายค้านและพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ส่วนพรรคประชาชนมีบทบาทก้ำกึ่งทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน สถานการณ์ดังกล่าวสร้างบรรยากาศสับสนท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจ ในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาและรวบรวมความคิดเห็นต่างๆ คิดว่าควรจะต้องมีการกราบบังคมทูลถวายสถานการณ์ต่างๆ ให้พระองค์ทราบ เพื่อแก้ปัญหา ซึ่งตัดสินใจยื่นทูลเกล้าฯ “ยุบสภา” ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ก.ย. เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจผ่านการเลือกตั้ง โดยข่าวดังกล่าวสอดรับบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ระบุว่า ภายหลังมีข่าวดังกล่าวราคาหุ้นกลุ่ม Domestic Plays เคลื่อนไหวนำตลาดวานนี้ 3 ก.ย.68 ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์ประเมิน เป็นผลมาจากตลาดให้น้ำหนัก การเมือง กำลังเดินหน้าสู่ทางออกการเลือกตั้งและผลกระทบเศรษฐกิจจำกัดช่วงรอยต่อ หลัง ส.ว. ผ่านงบประมาณปี 69 ซึ่งนับเป็นโอกาสลงทุนกลางถึงยาวในกลุ่มค้าปลีก โรงพยาบาล และท่องเที่ยว ทั้งนี้ หากมองที่รายละเอียดหุ้นกลุ่ม Domestic Plays ประเมินมีโอกาสเห็นการกลับสถานะลักษณะ Re-rating ซึ่งแรงสนับสนุนหลัก จากประเด็นการเมืองกำลังเดินหน้าสู่ทางออก คือ การเลือกตั้งในท้ายที่สุดไม่ว่าจะเป็นการผ่านขั้นตอนโหวตนายก ตั้งรัฐบาลรอยต่อ หรือ การยุบสภามีผลทันที อย่างไรก็ตาม ช่วงรอยต่อการเมืองก่อนการเลือกตั้งความเสี่ยงเศรษฐกิจที่ตลาดกังวลช่วงก่อนหน้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลัง ส.ว. ผ่านร่างงบประมาณปี 69 ประเมินทิศทางดังกล่าว จะสนับสนุนหุ้นกลุ่มอิง Domestic ผสานแต่ละกลุ่มเริ่มมีภาพบวกเฉพาะ 1.) กลุ่มค้าปลีก ยอดขายสาขาเดิมทยอยผ่านพ้นจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 ปี 68 2.) โรงพยาบาล สัญญาณบวกผู้ป่วยชาวตะวันออกกลางกลับมา และ 3.) ท่องเที่ยว แม้เดือน ก.ย. อาจจะเป็นช่วงนักท่องเที่ยวอ่อนลงเมื่อเทียบระหว่างเดือน แต่หลังจากนั้นจะเร่งมาก นำโดยช่วงวันแรงงานจีน ตามด้วยฤดูกาล ในเชิงกลยุทธ์ลงทุนหุ้น Domestic Plays กลุ่มดังกล่าวยังอยู่ในโซน Deep Value ก่อนหน้าถูกกดดันความไม่ชัดเจนการเมือง คาดการณ์มีโอกาสเห็นการกลับสถานะแบบเร่ง โดยฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำลงทุนหุ้น Top Pick กลุ่มค้าปลีก คือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ให้ราคาพื้นฐาน 80 บาท วางแนวรับ 45.50-44.75 บาท แนวต้าน 47.25-48.25 บาท และตัดขาดทุน 43.50 บาท กลุ่มโรงพยาบาล แนะนำ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ให้ราคาพื้นฐาน 200 บาท วางแนวรับ 186.50-184 บาท แนวต้าน 194-196.50 บาท และตัดขาดทุน 182.5 บาท ส่วนกลุ่มโรงแรม แนะนำลงทุน บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ให้ราคาพื้นฐาน 33 บาท วางแนวรับ 28.25-27.50 บาท แนวต้าน 30.75-32 บาท และตัดขาดทุน 27 บาท นอกจากนี้กลยุทธ์ “เก็งกำไร” แนะนำ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ให้ราคาพื้นฐาน 3.10 บาท วางแนวรับ 2.48-2.44 บาท แนวต้าน 2.64-2.74 บาท และตัดขาดทุน 2.40 บาท