ดัชนีS&P 500

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันพุธ (30 ก.ค.68) โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 170 จุด หลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้ ตามที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 44,461.28 จุด ลดลง 171.71 จุด หรือ -0.38% ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,362.90 จุด ลดลง 7.96 จุด หรือ -0.12% ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 21,67 จุด เพิ่มขึ้น 31.38 จุด หรือ +0.15% แรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ซึ่งมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.25–4.50% ตามเดิม สะท้อนจุดยืนของเฟดที่ยังไม่รีบร้อนลดดอกเบี้ย แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเรียกร้องให้ดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายมากขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ดี สิ่งที่สร้างความประหลาดใจแก่นักลงทุนคือ ถ้อยแถลงของพาวเวลล์ ในการแถลงข่าวหลังการประชุม ซึ่งระบุว่า “ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ สำหรับเดือนกันยายน” และ “ข้อมูลในระยะข้างหน้าจะเป็นตัวกำหนด” ท่าทีดังกล่าวทำให้ความคาดหวังเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยในไตรมาส 3 ลดลงอย่างเห็นได้ชัด นักวิเคราะห์หลายรายประเมินว่า หากไม่มีสัญญาณชะลอตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม การลดดอกเบี้ยอาจถูกเลื่อนออกไปสู่ช่วงปลายปี ซึ่งจะส่งผลต่อแนวโน้มการลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลก