ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์

นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดผลงานไตรมาส 3/2564 เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2564 ที่มีรายได้ 2,924 ล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะเพิ่มเติม เพื่อผลักดันกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 526 เมกกะวัตต์ภายในปี 2567 ชดเชย Adder บางส่วนที่ทยอยหมดอายุลง โดยปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขยะมูลฝอยระยะที่ 2 ของเทศบาลนครนครราชสีมา กำลังการผลิตติดตั้ง 12 เมกะวัตต์ ระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้าตามสัญญา 20 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายได้ในเดือนเม.ย.2566 ส่งผลให้มีรายได้ และ EBITDA เพิ่มประมาณ 480 ล้านบาท และ 350 ล้านบาท ต่อปี ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าขยะองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กำลังการผลิตติดตั้ง 9.90 เมกะวัตต์ ระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้าตามสัญญา 20 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายได้ในเดือนเม.ย. 2566 ส่งผลให้มีรายได้ และ EBITDA เพิ่มประมาณ 400 ล้านบาท และ 300 ล้านบาทต่อปี สำหรับโครงการผลิตเชื้อเพลิง RDF เพื่อใช้ในโรงงานปูนซิเมนต์ของ TPIPL เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกเป็นการช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมของโลก และจะส่งผลให้มีรายได้ และ EBITDA เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ TPIPP ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าภายในปี 2567 โดยจะเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯมี EBITDA เพิ่มขึ้นจนสามารถชดเชย Adder ของโรงไฟฟ้า TG3 (18 MW) และ TG5 (55 MW) ที่จะทยอยหมดอายุลงในเดือนม.ค. และส.ค.2565 นี้ ได้ (โดยภายหลังระยะเวลาดังกล่าว โรงไฟฟ้า TG3 และ TG5 ยังสามารถจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ EGAT ที่ราคาไฟฟ้าฐานได้) และบริษัทฯยังมีโรงไฟฟ้า TG4 และ TG6 ที่มีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าจำนวน 90 เมกะวัตต์ ที่ได้รับ Adder จาก EGAT ขณะเดียวกันในส่วนความคืบหน้าโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต หรือ Prototype City of Advanced Futuristic Industries (PAFI) อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา มูลค่าลงทุนไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดสีเขียว นิคมอุตสาหกรรม การก่อสร้างท่าเรือเพื่อการพาณิชย์และการท่องเที่ยว คลังสินค้า และเมืองอัจฉริยะ อยู่ระหว่างเจรจาหาพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อการร่วมลงทุนโดยมีผู้ลงทุนจากประเทศ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เยอรมัน และมาเลเซีย ซึ่งได้ให้ความสนใจลงทุนในโครงการดังกล่าว นอกจากนี้การดำเนินการของภาครัฐ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน (ผังเมือง) และบริษัทฯยื่นคำขอรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) แล้ว 3 โครงการ และอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารเพื่อยื่นคำขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับโครงการที่เหลือ ควบคู่ไปกับการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โดย TPIPP ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัดในทุกโครงการ