ที่อยู่อาศัยสีเขียว

นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ ORN เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 438.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123.08% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 196.66 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 38.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 270.93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10.42 ล้านบาท โดยผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น ผลจากยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวสูง-แนวราบใน จ.เชียงใหม่ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ มูลค่า 274.73 ล้านบาท จำนวน 9 โครงการ ได้แก่ โครงการ ฮาบิแทท รวมโชค, ฮาบิแทท วงแหวน-สันกำแพง, ฮาบิแทท ซูเปอร์ไฮเวย์, บีลีฟ รวมโชค, บีลีฟ สันทราย-แม่โจ้, บีลีฟ วงแหวน-สันกำแพง, อรสิรินวิลล์ ท่ารั้ว, อรสิรินวิลล์ สันทราย และ อรสิรินวิลล์ โชตนา และโครงการแนวสูง มูลค่า 161.82 ล้านบาท จำนวน 6 โครงการ ได้แก่ ดิแอสตร้า, ดิแอสตร้า สกายริเวอร์, อะไรซ์ มหิดล, เดอะเน็กซ์ เจ็ดยอด 1, เดอะเน็กซ์ เจ็ดยอด 2 และ เดอะเน็กซ์ รวมโชค-ซิตี้ฮอลล์ 1 ทั้งนี้ ท่ามกลางสภาวะการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่รุนแรงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนในการจัดจำหน่าย อาทิ การโปรโมทสื่อโฆษณาต่าง ๆ ของโครงการใหม่ และต้นทุนค่านายหน้าตัวแทนขาย ของโครงการแนวสูงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าในเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อศักยภาพโครงการ จุดเด่นด้านทำเลศักยภาพ ดีไซน์ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย การก่อสร้าง ออกแบบตามกฎหมายควบคุมอาคารและมาตรฐานกรมโยธาธิการและผังเมือง ส่งผลให้โครงการของกลุ่มบริษัทมีกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด อีกทั้ง ยังคงมีสัญญาณที่ดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ส่งผลให้ผู้ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยเริ่มกลับมา โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ทาง บริษัทฯ มุ่งเน้นสร้างสรรค์โครงการที่อยู่อาศัยสีเขียว โดยการเลือกใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนการก่อสร้าง ดีไซน์ออกแบบพื้นที่ เพื่อประหยัดพลังงาน ไปจนถึงการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ เพื่อเป้าหมายด้านความยั่งยืน ควบคู่กลยุทธ์การตลาดที่เข้มข้น โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่หลากหลาย เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ความสำคัญกับการบริหารสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว นายปรีดิกร กล่าว