บริษัทหนี้สูง

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสเอ็กซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินสถานการณ์หลัง Moody’s ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยจาก “Stable” เป็น “Negative” ว่าจะส่งผลลบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น โดยอ้างอิงจากข้อมูลในอดีต พบว่าเมื่อมีการปรับลดแนวโน้มเครดิต SET Index มักปรับตัวลดลงเฉลี่ยราว 0.7% ในวันถัดไป โดยกลุ่มที่มักได้รับผลกระทบชัดเจน ได้แก่ กลุ่มธนาคาร และกลุ่มธุรกิจที่มีภาระหนี้สินสูง อย่างไรก็ดี อินโนเวสเอ็กซ์มองว่าผลกระทบเชิงลบจะถูกสะท้อนในราคาหุ้นอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะสั้นจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งมักเข้าซื้อเมื่อราคาปรับลงเกินพื้นฐาน สำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น แนะนำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนในกลุ่มธนาคารที่มีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ และกลุ่มที่มีต้นทุนการเงินสูงจากภาระหนี้ ส่วนกลุ่มส่งออกอาจได้อานิสงส์เชิงจิตวิทยาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ในรอบนี้อาจไม่เด่นชัดนัก เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่กดดันภาคการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ อินโนเวสเอ็กซ์ยังไม่ประเมินว่าจะมีการปรับลดอันดับเครดิตจริงในระยะสั้นถึงกลาง เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางการคลังของไทยยังแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่ 64-65% ซึ่งยังต่ำกว่าเพดาน 70% และภาระการชำระหนี้รายปีอยู่ในระดับต่ำ จากการบริหารจัดการหนี้ผ่านตราสารระยะยาว ขณะที่สัดส่วนหนี้ต่างประเทศต่ำกว่า 1% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัย โดยอินโนเวสเอ็กซ์แนะนำให้นักลงทุนมองการลงทุนระยะยาวเป็นหลัก พร้อมติดตามมาตรการของภาครัฐในการเร่งสร้างรายได้ การรักษาวินัยทางการคลัง และการเปิดเจรจาขยายตลาดส่งออกใหม่ โดยเฉพาะการเดินหน้าฟื้นความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อเสริมความเชื่อมั่นนักลงทุนในระยะยาว