บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด

การจับมือระหว่าง “บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด” ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล และ “บริษัท ทรู มันนี่ จํากัด” ในเครือบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดตัวบริการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (คริปโทเคอร์เรนซี) ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet ครั้งแรกในประเทศไทย ที่สามารถลงทุนเริ่มต้นเพียง 3,000 บาท กลายเป็นเมกะดีลที่น่าสนใจของบรรดานักลงทุนรายย่อย ในการเข้าถึงการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลง่ายยิ่งขึ้น.!! สำหรับการบริการลงทุนนี้ เป็นบริการซื้อกองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลกับ Merkle Capital อีกรูปแบบหนึ่ง ที่ผู้ใช้งาน TrueMoney Wallet สามารถเข้ามากดซื้อขายกองทุนดังกล่าวได้ง่าย ๆ ไม่ต่างกับการใช้งานแอป TrueMoney Wallet รูปแบบอื่น ๆ โดยตัวกองทุนดังกล่าวแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ประเภท 1) M-Bitcoin Alpha คือ การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล Bitcoin ที่ถูกยกเป็น Digital Gold โดยลงทุนเต็มอัตรา (Fully Invested) เพื่อสะสมมูลค่าระยะยาว 2) M-Large Cap คือ การเน้นลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งสกุลเงิน และ Smart Contract Platform ที่เป็นผู้นำของอุตสาหกรรม โดยมี Merkle Framework เป็นผู้คัดกรองเพื่อหาสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจ 3) M-Metaverse คือการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse Ecosystem รวมถึง Platform ที่เกี่ยวข้องกับ Games, NFT และ Infrastructure ของ Metaverse ที่มีศักยภาพการเติบโตระยะยาว 4) M-Blockchain คือ การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Blockchain Infrastructure และ Smart Contract Platform เช่น ETH, SOL, LUNA และ เทคโนโลยี Layer 1, Layer 2 ชั้นนำของอุตสาหกรรม ที่เริ่มมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จุดกำเนิดการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet มาจากการพบ Pain Point ของนักลงทุนรายย่อยว่ามีความสนใจในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร และบางส่วนไม่มีเวลาดูแลพอร์ตลงทุนมากนัก จึงมองว่า หากสามารถเพิ่มช่องทางการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลให้นักลงทุนรายย่อย ในรูปแบบที่ไม่ซับซ้อน และมีการดูแลจากทีมงานจะทำให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลได้ง่ายขึ้น โดย TrueMoney คาดหวังว่า จะช่วยดึงดูดผู้ใช้ใหม่เข้ามามากขึ้น จากรายงาน Digital 2022 Global Overview โดย We Are Social และ Hootsuite ในเดือน มกราคม 2565 ที่ผ่านมา พบว่า คนไทยมีสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลต่อจำนวนประชากรผู้ใช้อินเทอร์เน็ต อายุ 16-64 ปี สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกระดับ 20.1% การจับมือครั้งนี้ TrueMoney และ Merkle Capital มีเป้าหมายจะเป็นช่องทางที่ช่วยให้คนกว่า 24 ล้านคนที่ใช้จ่ายผ่าน TrueMoney Wallet สามารถเข้าถึงการลงทุนสินทรัพย์ดิจทัลง่ายขึ้น เพื่อเร่งเสริมการลงทุนของคนไทย ที่ถูกมองว่ามีเพียง 4% เท่านั้น จากประชากรทั้งหมดของประเทศ โดย TrueMoney มองว่าจะสามารถผลักดันให้คน 100,000-200,000 คน ที่ใช้แอป TrueMoney Wallet เริ่มลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลช่วงปีแรก ด้วย 3 จุดเด่นมาเป็นกลยุทธ์หลัก นั่นคือ การเข้าถึงง่าย (ภายในเวลาไม่เกิน 5 นาที) มีผู้ดูแลช่วยดูแลพอร์ต (ผู้ให้คำปรึกษาทั้งเรื่องภาษี, การลงทุน, และดูแลจัดการพอร์ตตลอด 24 ชั่วโมง) และความปลอดภัย (ด้วยความที่ Merkle Capital อยู่ภายใต้การกำกับดูแลก.ล.ต.) การที่ Merkle Capital ผู้ให้บริการจัดการพอร์ตลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลให้นักลงทุนกลุ่ม High Net Worth ที่ลงทุนขั้นต่ำ 100,000-1,000,000 ล้านบาท จับมือกับ TrueMoney ที่มีฐานลูกค้ารายย่อยกว่า 24 ล้านคน หรือกว่า 34% ของจำนวนประชากรไทย นั่นทำให้ดีลนี้กลายเป็น “เมกะดีล” ในโลกสินทรัพย์ดิจิทัล..ที่น่าสนใจและน่าติดตามอย่างยิ่ง..!??