ผลประกอบการแบงก์

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) ประเมินภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้ (14–18 ก.ค. 2568) คาดว่าตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในภาวะ “ฟื้นตัว” โดยให้กรอบแนวต้านที่ระดับ 1,145/1,158 จุด และแนวรับที่ 1,113/1,104 จุด แม้สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้ากลับมามีความเข้มข้นอีกครั้ง แต่ยังไม่พบปัจจัยเสี่ยงใหม่เพิ่มเติม และท้ายที่สุดอาจกลับมากดดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ เอง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เข้าใกล้วัฏจักรการลดอัตราดอกเบี้ยรอบใหม่มากขึ้น ภายใต้ภาพดังกล่าว คาดว่าจะเอื้อต่อกระแสเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) ไหลเข้าสู่สินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่ (EM Assets) โดยเฉพาะพันธบัตรเอเชียที่มีแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยปรับลดเร็วกว่าสหรัฐฯ และตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่โดดเด่นจากความคาดหวังว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากการประชุม Politburo กลางเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเน้นเก็งกำไรหุ้นในธีม China Plays เช่น กลุ่มปิโตรเคมี แพ็กเกจจิ้ง โลจิสติกส์ และหุ้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลง อาทิ โรงไฟฟ้า เช่าซื้อ หุ้น High Yield ที่มีระดับหนี้สูง รวมถึงหุ้น Domestic Play ที่อิงกับการฟื้นตัวของภาคบริการ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่มีโมเมนตัมฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด โดยหุ้นเด่นประจำสัปดาห์ ได้แก่ AOT (เป้าหมาย 39 บาท)โมเมนตัมนักท่องเที่ยวฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด หนุนอัพไซด์ประมาณการรายได้ และGULF (เป้าหมาย 56.5 บาท): ได้ประโยชน์จากต้นทุนโภคภัณฑ์ลดลง ผสานแรงหนุนจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง รวมทั้ง SCC (เป้าหมาย 252 บาท): คาดกำไรปกติไตรมาส 2/68 สะท้อนภาพผ่านจุดต่ำสุด หนุนโอกาสรับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นจากจีน นอกจากนี้ยังแนะนำหุ้นเด่นประจำเดือน ก.ค. 68 ได้แก่ ADVANC, AMATA, BDMS, GULF, IVL, PTTGC, SCC และหุ้นเด่นไตรมาส 3/68 ได้แก่ ADVANC, TRUE, GULF, MTC, BDMS, CENTEL, PTTGC, IVL, CPALL, WHAและหุ้นขนาดเล็ก (Small Cap) ได้แก่ BCH, SAWAD, AMATA, ERW ด้านปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้วันที่ 14–18 ก.ค. ติดตามความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า หลังสหรัฐฯ เลื่อนการบังคับใช้ภาษีการค้าเป็น 1 ส.ค. ส่วน 15 ก.ค. สหรัฐฯรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิถุนายน คาดเงินเฟ้อทั่วไป +2.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +0.3% เทียบเดือนก่อนหน้าและเงินเฟ้อพื้นฐาน +2.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +0.2% เทียบเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้วันที่ 17–18 ก.ค. สหรัฐฯรายงานยอดค้าปลีกเดือน มิ.ย. (คาด +0.0% เทียบเดือนก่อนหน้า) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน (คาด 61.3 จุด) ส่วนวันที่ 14–15 ก.ค. จีนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ได้แก่ ส่งออก–นำเข้า, ดัชนีการผลิต, ค้าปลีก, การลงทุนสินทรัพย์คงทน และ GDP ไตรมาส 2/68 (คาด +5.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +0.9% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ขณะที่ไทยวันที่ 15 ก.ค. เริ่มรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 ของกลุ่มธนาคาร นำโดย TISCO ตามด้วย TTB และ BBL ในวันที่ 18 ก.ค. สำหรับภาพรวม SET ประเมิน EPS ปี 2568 อยู่ที่ 89.4 บาท/หุ้น ลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน โดยมีกลุ่มแพ็กเกจจิ้ง เกษตรฯ หนุน ขณะที่กลุ่มค้าปลีก–อาหาร ปรับลดประมาณการ ด้าน Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมารายงานว่าเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) +3,652 ล้านดอลลาร์ โดยไทยมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ +3 ล้านดอลลาร์