พรรคกล้าทำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล 7 พรรค ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Ing Shinawatra” ที่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพ หลังการหารือเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี หรือ “ครม. อิ๊งค์ 2” ภาพถ่ายดังกล่าวมีสมาชิก 12 คน จาก 7 พรรคการเมือง ได้แก่ 1. เพื่อไทย : นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (หัวหน้าพรรค), นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช (เลขาธิการนายกรัฐมนตรี), สรวงศ์ เทียนทอง (เลขาธิการพรรค), 2. รวมไทยสร้างชาติ : พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (หัวหน้าพรรค), 3. กล้าธรรม : นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (หัวหน้าพรรค), 4. ประชาธิปัตย์ : เฉลิมชัย ศรีอ่อน (หัวหน้าพรรค), เดชอิศม์ ขาวทอง (เลขาธิการพรรค), 5. ชาติไทยพัฒนา : วราวุธ ศิลปอาชา (หัวหน้าพรรค), ประภัตร โพธสุธน (เลขาธิการพรรค) 6. ประชาชาติ : พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง (หัวหน้าพรรค), ซูการ์โน มะทา (เลขาธิการพรรค) และ 7. ชาติพัฒนา : สุวัจน์ ลิปตพัลลภ (ประธานพรรค) นางสาวแพทองธาร ยังโพสต์ข้อความประกอบภาพ ระบุว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย รัฐบาลของเราจะทำงานหนักร่วมกันด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเท เพื่อประเทศไทยค่ะ" อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีโพสต์ดังกล่าวออกมา มีรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ได้นัดหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ โรงแรมโรสวูด เพื่อพูดคุยถึงการปรับ ครม. หลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลงถึง 8 ตำแหน่ง ประกอบกับสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่พรรคเพื่อไทย มีแนวคิดจะรีเซตการทำงานของฝ่ายบริหารใหม่ เพื่อปรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพในช่วงเวลาที่เหลือไม่ถึง 2 ปี ซึ่งภาพที่นายกรัฐมนตรีสื่อสารออกมาถึงเป็นการตอกย้ำความเหนียวแน่นของพรรคร่วมรัฐบาล ท่ามกลางศึกการเมืองรอบด้านที่รัฐบาลกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ส่วนความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการปรับ ครม. มีรายงานถึงโผรายชื่อที่มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เริ่มจาก นายณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม มีชื่อเป็นแคนดิเดตลุ้นเลื่อนขึ้นนั่งตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แทน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบัน แต่ปรากฎว่าล่าสุดมีชื่อของ พล.อ. สุนัย ประภูชะเนย์ อดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ และอดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นอีก 1 แคนดิเดตที่มีโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยนายภูมิธรรม มีแนวโน้มจะถูกปรับไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แทน ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นหนึ่งในตัวเต็งสำหรับเก้าอี้มหาดไทย อาจถูกปรับไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขณะที่ ตำแหน่งรัฐมนตรีดีอีเอสที่ว่างลง มีชื่อของ นายจักรพงษ์ แสงมณี อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตคนสำคัญที่มีโอกาสเข้ารับตำแหน่งดังกล่าว