รถเมล์EV

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้มีการทบทวนมติ ครม.เมื่อวันที่ 9 เม.ย.56 ที่อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ดำเนินโครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน เพื่อนำมาให้บริการทดแทนรถโดยสารเดิมที่ใช้น้ำมันดีเซลในวงเงินรวม 13,162.20 ล้านบาท โดยอนุมัติให้ปรับเปลี่ยนเป็นโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) จำนวน 1,520 คัน ระยะเวลา 7 ปี ซึ่งมีความพร้อมที่จะดำเนินการขณะนี้ในกรอบวงเงินลงทุนโครงการ 15,355.60 ล้านบาท และให้ ขสมก. เป็นผู้บริหารโครงการโดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568-2575 ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมมอบหมายให้ ขสมก.รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงบประมาณ (สงป.) และกระทรวงการคลัง (กค.) ไปพิจารณาประกอบการดำเนินงานโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) ต่อไปแล้ว สำหรับโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) จำนวน 1,520 คัน มีวงเงินโครงการ 15,355.60 ล้านบาท เช่น ค่าเช่าตัวรถ (10,134.70 ล้านบาท) ค่าซ่อมบำรุงรถ (3,240.03 ล้านบาท) ค่าเช่าสถานีอัดประจุไฟฟ้า (967.40 ล้านบาท) โดยใช้จ่ายจากงบฯ ปี 68 ที่ได้รับอนุมัติไว้แล้วจำนวน 368.40 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจำนวน 14,987.20 ล้านบาท ผูกพันงบฯ ปี 69-74 ในช่วงเวลาที่ดำเนินโครงการ 7 ปี ได้ประมาณการรายได้ 52,654.19 ล้านบาท เช่น รายได้ค่าโดยสาร รายได้โฆษณา ขณะที่ประมาณการค่าใช้จ่าย 32,798.54 ล้านบาท เช่น ค่าเช่ารถโดยสารปรับอากาศพลังงานสะอาด ค่าเช่าตู้ชาร์จพลังงานไฟฟ้า เช่น ค่าเช่าพื้นที่จอดและชาร์จไฟรถโดยสารบางแห่ง ส่งผลให้มีกำไรสุทธิตลอดระยะเวลาโครงการ 19,855.64 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเป็นที่จับตาว่ากลุ่มผู้ผลิต-จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า และสถานีชาร์จ คาดว่าจะได้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าว นำโดย EA-CHO-OR–GPSC–BCPG