ราคาหุ้นสหรัฐฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (12 ส.ค. 2568) ปิดบวกแรงต่อจากวันจันทร์ หลังข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดช่วยเสริมความเชื่อมั่นนักลงทุนว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีพื้นที่เพียงพอในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน แม้ตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอลงเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอที่จะกระตุ้นแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่และหุ้นเทคโนโลยี ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 44,458.61 จุด เพิ่มขึ้น 483.52 จุด หรือ 1.10% ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,445.76 จุด เพิ่มขึ้น 72.31 จุด หรือ 1.13% ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 21,90 จุด เพิ่มขึ้น 296.50 จุด หรือ 1.39% ข้อมูลจาก CME Group ระบุว่า นักลงทุนเพิ่มโอกาสคาดการณ์การลดดอกเบี้ยเดือนกันยายนสู่ 94% จาก 86% เมื่อวันก่อนหน้า หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้นเพียง 2.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 2.8% และเท่ากับเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ เฟดยังรอดูข้อมูลเงินเฟ้อและตลาดแรงงานอีกหนึ่งชุดก่อนการประชุมวันที่ 17 กันยายนนี้ ขณะที่ในตลาดพันธบัตร อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับขึ้นจาก 4.27% เป็น 4.28% ขณะที่พันธบัตรอายุ 2 ปี ลดลงจาก 3.76% เป็น 3.73% ความเคลื่อนไหวหุ้นรายตัวที่น่าสนใจ ได้แก่ Circle Internet Group ผู้ให้บริการสกุลเงินดิจิทัล USDC บวก 1.3% หลังรายได้รวมและรายได้จากเงินสำรองในไตรมาสแรกนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 53% สูงกว่าคาด แม้ขาดทุนมากกว่าประมาณการ ขณะที่ Celanese ร่วง 13.1% แม้กำไรดีกว่าคาด แต่ซีอีโอยังมองว่าสภาพความต้องการตลาดไม่ฟื้น ส่วน Cardinal Health ดิ่ง 7.2% หลังรายได้ต่ำกว่าคาด แม้กำไรดีกว่าประมาณการ Barry Bannister และ Thomas Carroll นักวิเคราะห์จาก Stifel เตือนว่า ราคาหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นกว่า 30% นับตั้งแต่เดือนเมษายน จนเข้าสู่พื้นที่มีมูลค่าสูง (extended valuations) ซึ่งอาจจำกัดโอกาสการปรับขึ้นต่อ พร้อมประเมินว่า S&P 500 อาจปรับลงราว 10–14% ภายในสิ้นปี 2568 หากเผชิญแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อทรงตัวและการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ด้านตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีหุ้นจีนขยับบวก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเลื่อนการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 90 วัน ซึ่งตลาดคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า และมองว่าจะช่วยเปิดทางสู่ข้อตกลงการค้าเพื่อลดความเสี่ยงสงครามการค้า ขณะที่ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นพุ่ง 2.1% ส่วน Kospi ของเกาหลีใต้ลดลง 0.5% ที่มา : How major US stock indexes fared Tuesday