วิเคราะห์ค่าเงิน

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้าวันนี้เปิดตลาดที่ระดับ 32.37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวานที่ 32.47 บาทต่อดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ซึ่งปรับตัวลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หลังตลาดเพิ่มน้ำหนักคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 9–10 ธันวาคมนี้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้แสดงความเห็นสนับสนุนแนวทางปรับลดอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group ระบุว่า นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 85% ต่อความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้นจากระดับ 42.4% เมื่อสัปดาห์ก่อนอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ตลอดจนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก Conference Board ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางเงินดอลลาร์เพิ่มเติม ด้านกระแสเงินทุนต่างชาติพบว่า เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,134 ล้านบาท ขณะที่ซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 1,464 ล้านบาท สะท้อนการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ยังผันผวนตามทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ส่วนกรอบค่าเงินที่ประเมินสำหรับวันนี้ ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐต่อบาทที่ 32.20–32.60 แนะนำทยอยซื้อเมื่อเงินบาทแข็งที่ระดับ 32.20 และขายที่ระดับ 32.60 ขณะที่เงินยูโรต่อบาทอยู่ในกรอบ 37.20–37.60 แนะนำซื้อที่ 37.20 และขายที่ 37.60 ส่วนเงินเยนอยู่ในกรอบ 0.2050–0.2080 แนะนำซื้อที่ 0.2050 และขายที่ 0.2080 สำหรับเงินปอนด์และดอลลาร์ออสเตรเลีย คาดการเคลื่อนไหวที่ 42.30–42.70 และ 20.70–21.30 ตามลำดับ