สาริศ รัตนาวะดี

ทำเอาเข่าแทบทรุด..!! เมื่อเห็นราคาหุ้นบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ในกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ของ “เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์” ทรุดโทรมอย่างหนัก ตั้งแต่ต้นปีมาก็ไหลลงต่อเนื่อง โดยในรอบ 6 เดือน ปรับลดลงไปแล้วกว่า 25% และรอบ 3 เดือนปรับลดลงกว่า 23%... ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกังวลว่าผลประกอบการจะออกมาไม่ดี หลังจาก VGI ได้ขายช่องทางทำกิน หรือขายสิทธิบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสให้กับบริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE ซึ่งปัจจุบันแปลงร่างเป็นบริษัท ซุปเปอร์ เทอร์เทิล จำกัด (มหาชน) หรือ TURTLE ไปแล้ว ทำให้การ Growth จะยากขึ้น..!! ที่จริงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ราคาหุ้น VGI เป็นเทรนด์ขาลงมาโดยตลอด...ก่อนโควิด สิ้นปี 2562 ราคาปิดที่ 9.55 บาท มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 82,236.63 ล้านบาท จากนั้นมาก็ค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ โดยสิ้นปี 2563 ราคาไหลมาแตะ 6.65 บาท มาร์เก็ตแคปลดลงเหลือ 57,264.25 ล้านบาท ถัดมาสิ้นปี 2564 ราคาปิดที่ 6.60 บาท มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 56,833.69 ล้านบาท ขณะที่สิ้นปี 2565 ราคาไหลมาแตะที่ 4.40 บาท มาร์เก็ตแคปเหลือแค่ 49,255.88 ล้านบาท ส่วนปีนี้ลงหนักหน่อย โดย ณ วันที่ 7 มิ.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 3.28 บาท มาร์เก็ตแคปลดเหลือ 36,718.02 ล้านบาทเท่านั้น เท่ากับว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มาร์เก็ตแคปของ VGI วูบหายไปแล้วกว่า 12,537.86 ล้านบาทเลยทีเดียว การที่ VGI มีสภาพย่ำแย่อย่างนี้ ก็กระทบชิ่งไปถึงแม่อย่าง BTS เต็ม ๆ เพราะในแง่เงินลงทุนก็เสื่อมถอยไปตามราคาหุ้น VGI ที่ปรับลดลง...ซึ่ง BTS คงดูทรงแล้วว่า ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ดีแน่ ๆ ก็เลยเข้าไปซื้อหุ้น VGI ช่วงที่ราคาลงมาลึกต่อเนื่อง โดยเป็นการซื้อบิ๊กล็อต 2 วันซ้อน จำนวน 754.23 ล้านหุ้น คิดเป็น 6.7374% แบ่งเป็น ซื้อเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2566 จำนวน 411.03 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.6717% ที่ราคาหุ้นละ 4 บาท เป็นวงเงิน 1,644.15 ล้านบาท และวันที่ 6 มิ.ย. 2566 จำนวน 343.20 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.0657% ที่ราคาหุ้นละ 4 บาท เป็นวงเงิน 1,372.80 ล้านบาท ส่งผลให้กลุ่ม BTS ขยับขึ้นมาถือหุ้น VGI จำนวน 6,754.24 ล้านหุ้น คิดเป็น 60.3352%..!! ส่วนคนที่ขายบิ๊กล็อตให้กับ BTS นั้น ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...แต่เป็นกลุ่มกัลฟ์ นำโดย “สาริศ รัตนาวะดี” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “เสี่ยกลาง”-สารัชถ์ รัตนาวะดี, Manford Equity Holdings Ltd., Gulf Investment and Trading Pte. Ltd. และ Gulf Capital Holdings Limited นั่นเอง เท่ากับว่า การขายบิ๊กล็อตหุ้น VGI ครั้งนี้ กลุ่มกัลฟ์ได้เงินก้อนโตเข้ากระเป๋าไปกว่า 3,000 ล้านบาทเลยทีเดียว...ส่วนจะฟันกำไรเท่าไหร่..? อันนี้มิอาจทราบได้ ส่วนประเด็นที่ว่า ทำไม BTS ต้องซื้อหุ้น VGI เพิ่มด้วยนั้น..? ถ้าให้วิเคราะห์ นอกจาก BTS ต้องการประคองราคาหุ้น VGI ไม่ให้ลงลึกสุดใจไปมากกว่านี้แล้ว น่าจะมีเหตุผลอื่น ๆ ซ่อนอยู่...ไม่ว่าจะเป็นการบริหารเงินสด ซึ่ง ณ งวดสิ้นปี 2565/2566 BTS มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ในกระเป๋ากว่า 10,291.67 ล้านบาทเลยนะ ที่สำคัญ ยังจำได้มั้ย...จำได้หรือเปล่า..? ว่ามติบอร์ด VGI เคยไฟเขียวให้มีการเพิ่มทุนแบบ PP จำนวน 559.72 ล้านหุ้น รอไว้แล้ว ส่วนจะจัดสรรให้ใครนั้น ยังไม่ได้ระบุตัวตน...เอ๊ะ ราคาหุ้นที่ลงลึกอย่างนี้ อาจเป็นเหตุเป็นผลต่อราคาเพิ่มทุนในอนาคตหรือเปล่า..? อันนี้ก็ไม่รู้สินะ ที่พอรู้...งานนี้ BTS โชว์ป๋า...จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบ ซื้อที่ราคาสูงลิ่ว 4 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาในกระดานเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. และ 6 มิ.ย. ปิดตลาดที่ 3.12 บาท... แต่น่าเสียดายที่ราคาวิ่งปรู๊ดปร๊าดได้แค่วันเดียวเท่านั้น... เอ๊ะ...เราควรไปต่อหรือพอแค่นี้กับหุ้นตัวนี้ดีนะเนี่ย..!? ...อิ อิ อิ...