หุ้นยาญี่ปุ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ก.ย.68) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (26 ก.ย.68) ตามทิศทางตลาดวอลล์สตรีทที่ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่สามในวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.68) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เผชิญกับความไม่แน่นอน ขณะที่หุ้นบริษัทยาในเอเชียร่วงลงเช้านี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาครั้งใหม่ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 45,634.20 จุด ลดลง 120.73 จุด หรือ -0.26%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,272.30 จุด ลดลง 212.38 จุด หรือ -0.80% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,839.86 จุด ลดลง 13.44 จุด หรือ -0.35% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดลบ 0.22% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลง 1.11% ทางการสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยล่าสุด FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 83.4% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน ต.ค. ซึ่งลดลงจากระดับ 92% ในวันพุธ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 3 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2568 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 3.8% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.0% และ 3.3% ตามลำดับ เนื่องจากความแข็งแกร่งของการใช้จ่ายผู้บริโภคและการลงทุนในภาคเอกชน ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 235,000 ราย หุ้นบริษัทยาในเอเชียร่วงลงเช้านี้ หลังจากปธน.ทรัมป์โพสต์ข้อความบนทรูธ โซเชียล (Truth Social) ว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ผลิตภัณฑ์ยาที่มีแบรนด์หรือจดสิทธิบัตรใด ๆ จะต้องเผชิญกับการถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 100% ยกเว้นบริษัทที่สร้างโรงงานผลิตยาในสหรัฐฯ หุ้นบริษัทยาในตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลงหลังคำประกาศดังกล่าว โดยหุ้น Daiichi Sankyo ดิ่งลง 3.34%, Chugai Pharmaceutical ลดลง 2.18% และ Sumitomo Pharma ร่วงลง 3.03% นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)