องค์ประชุมไม่ครบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางราง พ.ศ. ... ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ซึ่งมีนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เป็นประธาน ได้พิจารณาแล้วเสร็จ พ.ร.บ.การขนส่งทางรางฯ เป็นหนึ่งในสามร่างกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ระยะที่ 2 ของรัฐบาล ที่มีกำหนดเริ่มใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 การพิจารณาในวาระสองเป็นการลงมติรายมาตรา เวลา 14:35 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมสั่งพักประชุม 25 นาที เพื่อให้ สส. รับประทานอาหาร ก่อนกลับเข้าสู่การประชุมอีกครั้งในเวลา 15:00 น. จนถึงเวลา 16:30 น. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฝ่ายค้านได้ลุกขึ้นทักท้วงเรื่ององค์ประชุม โดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ระบุว่า ได้ส่งทีมไปตรวจสอบ ลานจอดรถชั้น B2 และพบว่า โล่ง ไม่มีรถจอด จึงตั้งข้อสังเกตว่า สส. ฝ่ายรัฐบาลไม่อยู่ พร้อมประกาศว่า ฝ่ายค้านจะไม่ร่วมแสดงตน หากองค์ประชุมไม่ครบ แต่หากครบ พร้อมร่วมลงมติร่างกฎหมายนี้ ผลการตรวจสอบองค์ประชุมก่อนการลงมติในมาตรา 62 ปรากฏว่ามี สส. แสดงตน 246 คน ที่ประชุมจึงสามารถเดินหน้าต่อได้ แต่ก่อนเข้าสู่การลงมติในมาตรา 63 นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ คนที่สอง ซึ่งทำหน้าที่ประธานในขณะนั้น ได้เรียกให้ สส. แสดงตนอีกครั้ง เพื่อยืนยันองค์ประชุม ระหว่างรอ สส. แสดงตนนั้น นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ได้ลุกขึ้นเสนอให้เปิดเผยผลการตรวจสอบองค์ประชุมและขอให้ประธานอย่าปิดประชุม โดยระบุว่าหากองค์ประชุมไม่ครบ ก็จะได้เปิดเผยรายชื่อผู้ที่ไม่แสดงตนให้สื่อมวลชนและประชาชนทราบ “ถ้ามันจะล่มก็ดีจะได้เปิดเผยว่าใครไม่อยู่ในที่ประชุม ผมจะได้เปิดเผยรายชื่อทั้งหมดว่าใครไม่แสดงตน ประชาชนจะได้ทราบว่าพวกขี้เกียจ สันหลังยาวเป็นใครบ้าง สมัยหน้าจะได้ไม่ต้องเลือกกลับเข้ามาในสภาอีกเป็นความรับผิดชอบ” นายวิสุทธิ์ กล่าว ทีมข่าว ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ สอบถามเพิ่มเติมไปยังนายวิสุทธิ์ ถึงสถานการณ์องค์ประชุมฝั่งรัฐบาลที่ไม่ครบ จนนำไปสู่การยุติการพิจารณาร่างกฎหมายกลางคัน นายวิสุทธิ์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับประธานสภาฯ แล้ว และเสนอว่าครั้งต่อไปหากองค์ประชุมไม่ครบ ขอให้ปล่อยให้ประชุมล่ม เพื่อเปิดเผยรายชื่อผู้ไม่แสดงตนให้ชัดเจน “เมื่อวานผมได้เรียนท่านวันนอร์แล้ว ขอความกรุณาว่าให้ล่มไปเลย ผมอยากได้ชื่อ พรรคไหนก็แล้วแต่ ผมไม่ไว้หน้าหรอก คนสันหลังยาวเนี่ย มันโกงเวลาราชการ อาทิตย์สองวันยังไม่ทำ” นายวิสุทธิ์กล่าว ทั้งนี้ ประธานวิปรัฐบาล ยืนยันว่า การเปิดเผยรายชื่อสามารถทำได้เฉพาะในกรณีที่ประชุมล่มอย่างเป็นทางการเท่านั้น“ข้าราชการเขายังไม่ให้แบบนี้เลย ถ้าไม่ล่ม มันผิดระเบียบ จะไปขอรายชื่อทีหลังไม่ได้ ผมก็ไม่อยากไปทำให้เขาเดือดร้อน เพราะหลักการมันไม่ได้” สำหรับกระแสข่าวที่โยงไปถึงความขัดแย้งภายในรัฐบาลและประเด็นต่อรอง “ตำแหน่ง” จึงทำให้เสียงหายไปนั้น นายวิสุทธิ์ ระบุว่า หลายกลุ่ม อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติก็มีสองฝั่ง ยังแนะนำให้แยกพรรคเลยเพื่อความชัดเจน เพราะต้องนึกประเทศชาติ และค่าใช้จ่ายในการประชุมสภาฯ แต่ละครั้งก็ไม่ใช่น้อย เมื่อถามย้ำว่า เสียงที่หายไปคือฝั่งรัฐบาลใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ ระบุว่า “ฝั่งรัฐบาลนี่แหละ” ต้องยอมรับว่าวันนี้เสียงมากกว่าฝ่ายค้านแค่สิบกว่าเสียง เมื่อวาน สส. ที่เป็นรัฐมนตรีหลายคนต้องออกไปประชุมด่วน เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาด้วย ก็ต้องประสานกับรัฐบาลต่อไป นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้ขอความร่วมมือจาก สส. หลายครั้ง ให้หลีกเลี่ยงการนัดหมายในวันประชุมสภาฯ เพราะสถานการณ์ของประเทศยังอยู่ในช่วงวิกฤต “ผมก็เคยขอแล้วว่า อย่านัดหมอวันพุธหรือพฤหัส ผมเองก็หาหมอ 2-3 โรงพยาบาลแต่ไม่เคยนัดวันราชการเลย เวลานี้ประเทศมีปัญหาทั้งชายแดน ทั้งภาษีจากสหรัฐฯ ถ้าคุณหนีตรงนี้ เท่ากับดูถูกประชาชน พวกนี้เดี๋ยวเลือกตั้งก็เอาเงินไปให้เขา ถ้าเปิดได้ผมอยากเปิดเผย คนอย่างนี้เลือกไม่ได้ โกงแม้แต่เวลา...” ประธานวิปรัฐบาล กล่าว อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รัฐบาลไม่ถอย! ดัน “รถไฟฟ้า 20 บาท” จ่อชงแก้ 3 กฎหมายเข้าสภา ส.ค. นี้