อุตสาหกรรมเป้าหมาย

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 2/2568 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบการประกาศเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มเติม จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 และเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษสวนอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค 2 พื้นที่นิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 1,941 ไร่ โดยบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เป็นผู้เสนอจัดตั้ง เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และการแพทย์ครบวงจร คาดว่าจะสร้างมูลค่าการลงทุนประมาณ 50,000 ล้านบาท และจ้างงานกว่า 25,000 ตำแหน่ง ส่งเสริมการเชื่อมโยงธุรกิจในชุมชน เช่น หอพัก โรงแรม และระบบขนส่งสาธารณะ สำหรับสวนอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค 2 ตั้งอยู่บริเวณเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา มีพื้นที่ 758 ไร่ โดยบริษัท 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค 2 จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ได้แก่ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ การแปรรูปอาหาร การบิน และโลจิสติกส์ คาดว่าจะสร้างมูลค่าการลงทุนประมาณ 8,900 ล้านบาท และสร้างงานอีกกว่า 7,600 ตำแหน่ง พร้อมเร่งพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างประกาศและร่างระเบียบต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ EEC อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย (1) ร่างประกาศ กพอ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การให้สิทธิแพทย์ต่างชาติประกอบวิชาชีพเวชกรรมในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ เป็นการดึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่มีประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 10 ปี เพื่อพัฒนาไทยสู่ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ กำหนดให้ต่อสิทธิได้คราวละไม่เกิน 1 ปี (2) ร่างระเบียบ กพอ. ว่าด้วยการจัดการที่ดินของ สกพอ. เพื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนาพื้นที่ EEC อย่างโปร่งใสและถูกต้องตามกฎหมาย และ (3) ร่างประกาศ สกพอ. ว่าด้วยการส่งเงินบำรุงกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเป้าหมายมีหน้าที่ส่งเงินเข้ากองทุน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาชุมชนหรือเยียวยาผลกระทบจากการพัฒนาในพื้นที่ ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้จัดทำร่างประกาศการจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 2 แห่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการต่อไป