เงินทดแทน

วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยโดยสรุปว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานนอกระบบที่สมัครใจเข้าสู่ระบบประกันสังคม โดยร่างกฎหมายฉบับนี้จะช่วยขยายความคุ้มครอง และเพิ่มเงินทดแทนให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิดีขึ้นในหลายด้าน หนึ่งในจุดสำคัญ คือ การเพิ่มเงินชดเชยกรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย หากผู้ประกันตนไม่ได้พักรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่มีใบรับรองแพทย์มายื่นจะได้รับเงินทดแทน 200 บาทต่อครั้ง จากเดิมที่บางทางเลือกได้แค่ 50 บาท หรือไม่ได้รับเลย นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมสิทธิสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคติดต่ออันตราย เช่น โควิด-19 โดยให้เงินชดเชยวันละ 200 บาท ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้กำหนดสิทธินี้ไว้ ขณะเดียวกัน ได้ปรับเกณฑ์การจ่ายเงินกรณีทุพพลภาพ จากเดิมที่จ่ายชดเชยรายเดือนเพียง 15 ปี เปลี่ยนเป็นจ่ายตลอดชีวิต โดยผู้ประกันตนจะได้รับเงินตั้งแต่ 1,000 ถึง 3,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับทางเลือกที่สมัครไว้ สำหรับผู้ประกันตนทางเลือกที่ 3 ยังได้รับสิทธิเพิ่มเติมในกรณีสงเคราะห์บุตร คือ เงินช่วยเหลือเดือนละ 300 บาทต่อคน สำหรับลูกที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปี กรณีผู้ประกันตนเสียชีวิต ก่อนอายุ 60 ปี หรือก่อนที่จะได้รับสิทธิชราภาพ จะจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่บุคคลที่ผู้ประกันตนระบุชื่อไว้ล่วงหน้า โดยไม่ต้องเป็นทายาทตามกฎหมายเท่านั้น ร่างกฎหมายนี้ยังมีบทเฉพาะกาลที่ช่วยให้ผู้ประกันตนที่ป่วยหรือทุพพลภาพในช่วงเวลาก่อนกฎหมายมีผลบังคับ เช่น ผู้ที่เคยป่วยด้วยโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ถึง 30 กันยายน 2565 ยังสามารถขอรับเงินชดเชยย้อนหลังได้ รวมถึงผู้ที่เคยได้รับสิทธิทุพพลภาพหรือสงเคราะห์บุตรตามกฎหมายเดิม ก็จะได้รับสิทธิเพิ่มตามเกณฑ์ใหม่โดยอัตโนมัติ