เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาระบุว่าถึงการพบสารซีเซียมที่ได้ถูกหลอมไปแล้วในโรงงานที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยเห็นว่า เรื่องของความอันตรายนั้นถือว่าตอบได้ยากว่าจะเกิดอันตรายอะไรบ้าง เพราะมีเหตุปัจจัยหลายอย่าง ทั้งปริมาณของสาร และลักษณะการหลอมโลหะ ซึ่งเมื่อ ซีเซียม-137 ถูกเผาหลอมรวมตัวกับโลหะอื่นๆ เสร็จแล้ว จนกลายเป็นโลหะผสมที่มีกัมมันตภาพรังสีนั้น ก็บอกได้ยาก ว่าจะยังคงมีความสามารถในการสลายตัวให้รังสีเบต้าและรังสีแกมม่า มากเท่าเดิมหรือไม่ โดยต้องให้ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เอาเครื่องวัดรังสีมาตรวจ อย่างไรก็ดีสิ่งที่น่าห่วงก็คือ การหลอมโลหะก็ย่อมจะเกิดการประทุของวัสดุที่เอามาเข้าเตาหลอม ซึ่งสามารถที่จะปลดปล่อยตัวสารซีเซียมให้กระเด็นฟุ้งกระจายออกมาจากเตาหลอม สู่ผู้คนที่อยู่โดยรอบในโรงงานจนเกิดอันตรายจากการรับเข้าไปในร่างกาย เช่น ผ่านทางการหายใจ หรือการสัมผัส หรือเปรอะเปื้อนเสื้อผ้า ทั้งนี้สถานการณ์ที่หนักที่สุด ที่เป็นไปได้คือ เถ้าเขม่าควันที่ออกจากเตาเผาขึ้นปล่องไฟไป อาจจะนำพาเอาสาร ซีเซียม-137 ล่องลอยออกไปสู่ชั้นบรรยากาศ จนฝุ่นผงรังสี ไปทั่วบริเวณที่กระแสลมพาไป เป็นอันตรายต่อผู้ที่สัมผัสหรือสูดดม และถ้ามีการปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ก็จะยิ่งมีอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและการนำน้ำไปใช้อุปโภคบริโภค ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดมาแล้วในต่างประเทศ เช่น ที่ประเทศสเปน ส่วนที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มคนที่อยู่ในโรงงาน ที่ทำงานหน้าเตาเผา หรือรวมถึงคนที่นำเหล็กไปบีบอัด ที่อาจจะได้รับสารไปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจำเป็นต้องพาทุกคนไปตรวจร่างกายทั้งหมด และต้องตรวจสอบว่ามีการปนเปื้อนติดเสื้อผ้าไปหรือไม่ นอกจากนี้ ในการหลอม เนื่องจากซีเซียม-137 เป็นเหล็ก จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการหลอมเข้าไปกับแท่งเหล็ก ก็อาจจะเกิดสภาวะโลหะผสมที่มีกัมตรังสี ซึ่งก็อาจเกิดขึ้นได้ ก็ต้องไปตรวจสอบ ส่วนที่เป็นเรื่องใหญ่ก็คือส่วนที่เป็นเถ้าลอยขึ้นไปจากปล่องโรงงาน ซึ่งยังไม่มีการพูดถึง ก็ไม่รู้ว่ามีการตรวจเจอบ้างหรือไม่ เจอมากน้อยแค่ไหน ซึ่งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพูดตามความเป็นจริงว่าเจอหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน สำหรับการประเมินสถานการณ์ในตอนนี้ ยังเชื่อว่าทางการสามารถควบคุมได้ และไม่กระจายฟุ้งที่อื่น เนื่องจากมีการเผาระบบปิด ไม่ใช่การปล่อยแบบปล่องควันที่จะลายคลุ้งไปในที่ห่างไกล ทางด้าน นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ให้ข้อมูลว่าเบื้องต้นตอนนี้ได้มีการตรวจพนักงาน และคนที่ใกล้ชิดสารซีเซียมแล้วจำนวน 70 คน เบื้องต้นทุกคนไม่มีสารตกค้าง อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังได้มีการตรวจโรงงานในรอบรัศมี 5 กิโลเมตรก็ไม่มีสารตกค้างเช่นเดียวกัน ดังนั้นในตอนนี้จึงถือว่ายังมีความปลอดภัย แต่ก็ต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด