แม่ทัพภาคที่ 1

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยผลการประชุมหารือระหว่าง พลเอก ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย กับแม่ทัพภาคที่ 2 และแม่ทัพภาคที่ 1 ในโอกาสนำคณะเดินทางเข้าหารือรับทราบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 29 และ 30 กรกฎาคม 2568 โดยเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซียได้พบปะหารือกับ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ณ กองบินที่ 21 จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อรับฟังสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาและแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ชี้แจงถึงมูลเหตุของสถานการณ์ที่นำมาสู่การสู้รบ ทั้งความเห็นต่างเรื่องแผนที่และแนวทางแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยยึดแนวทางสันติ ใช้การประท้วงการละเมิดตาม MOU ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาเลือกใช้กำลังทหารและวางทุ่นระเบิดในพื้นที่พิพาท ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา รวมถึงการใช้มวลชนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ปราสาทตาเมือนธมจนสถานการณ์ตึงเครียดต่อเนื่อง กระทั่งกัมพูชาเริ่มการปะทะที่ปราสาทตาเมือนธม หลังฝ่ายไทยปิดพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและประชาชน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซียแสดงความเข้าใจต่อบริบทของทั้งสองฝ่ายและเสนอให้ใช้กลไกความร่วมมือแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้ตกลงร่วมกันจัดผู้ช่วยทูตทหารกลุ่มอาเซียนเข้าสังเกตการณ์ในพื้นที่ของไทยและกัมพูชา ก่อนการประชุม GBC ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 โดยเสนอให้ใช้กลไกประสานงานผ่านผู้ช่วยทูตทหารไทย–มาเลเซียหรือคณะประสานงานที่ตั้งไว้ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์และสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย พร้อมย้ำว่าการหยุดยิงจะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือของทั้งสองประเทศ มาเลเซียพร้อมให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ฝ่ายมาเลเซียยังสอบถามเรื่องทหารกัมพูชาที่อยู่ภายใต้การควบคุม ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่าดำเนินการดูแลอย่างเหมาะสมตามหลักมนุษยธรรม และจะเร่งส่งกลับตามกฎหมายระหว่างประเทศ ขณะที่ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 กองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยผลการหารือระหว่าง พลเอก ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์ กับ พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ณ กองทัพภาคที่ 1 กรุงเทพมหานคร โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซียยืนยันว่า มาเลเซียพร้อมทำหน้าที่เป็นสื่อกลางสร้างสันติภาพชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมเตรียมจัดตั้งทีมผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ (DA TEAM) และทีมสังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Monitoring Team) เพื่อติดตามการหยุดยิงและรายงานข้อเท็จจริงให้อาเซียนรับทราบ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซียย้ำว่าเป้าหมายหลักคือสันติภาพ พร้อมเสนอ 3 ข้อหลัก ได้แก่ การหยุดยิงทันที การห้ามเพิ่มกำลังทหาร และการเน้นความช่วยเหลือทางการแพทย์ อีกทั้งแนะให้ไทยประสานกับกัมพูชาแบบไม่เป็นทางการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว แม่ทัพภาคที่ 1 ได้สรุปสถานการณ์หลังหยุดยิงและผลการพบผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชาให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซียรับทราบ พร้อมยืนยันว่าฝ่ายไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยินดีสนับสนุนทีมสังเกตการณ์ที่จะตั้งขึ้น