โครงการ EJIP2025

นางมานิกา สิทธิชัย เลขานุการบริษัท ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร ครั้งที่ 1/2568 วันที่ 28 มกราคม 2568 ได้มีมติอนุมัติโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง (Employee Joint Investment Program: EJIP2025) ทั้งนี้คณะกรรมการธนาคารมีความเห็นว่า โครงการ EJIP2025 เป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) สจ.6/2567 ว่าด้วยเรื่อง การจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของกรรมการ ผู้บริหาร ผู้สอบบัญชี ผู้ทำแผน และผู้บริหารแผน ประกาศ ณ วันที่ 5 มีนาคม 2567 โดยประกาศจากสำนักงาน ก.ล.ต. และไม่มีลักษณะที่เอื้อให้กรรมการหรือผู้บริหารสามารถแทรกแชงการลงทุนได้ อีกทั้งยังเป็นโครงการที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจและการมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการของพนักงาน และเป็นการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว รวมถึงเป็นทางเลือกในการจ่ายผลตอบแทนใช้เสริมกับการจ่ายผลตอบแทนรูปแบบทั่วไป ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อ 9(6) ของประกาศสำนักงาน ก.ล.ต. ธนาคารจะยื่นหนังสือรับรองต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในวันที่ 29 มกราคม 2568 ว่าโครงการ EJIP2025 เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อ 10 ตามประกาศสำนักงาน ก.ล.ต.ที่ สจ. 6/2567 สำหรับรายละเอียดโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ประจำปี 2568 ดังนี้ โดยอายุโครงการ ในส่วนของโปรแกรม เอ อายุ 3 ปี 5 เดือน (มีนาคม 2568 ถึง กรกฎาคม 2571) และโปรแกรม บี อายุ 5 ปี 5 เดือน (มีนาคม 2568 ถึง กรกฎาคม 2573) ทั้งนี้ผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ พนักงานประจำและผู้บริหารของกลุ่มธนาคาร TTB รวมบริษัทลูก ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขทางด้านผลการประเมินผลงานประจำปี และเป็นไปตามความสมัครใจของผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ อีกทั้งรวมนายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารซึ่งมีฐานะเป็นผู้บริหารของธนาคาร และไม่รวม กรรมการธนาคาร ผู้บริหารจาก ING และ Contract staff สำหรับระยะเวลาสมทบเงินเข้าโครงการ มีจำนวน 4 ครั้ง ในเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม 2568 ส่วนรูปแบบของโครงการ ธนาคารจะโอนเงินของผู้เข้าร่วมโครงการทุกราย ประกอบด้วย เงินลงทุนของพนักงานและผู้บริหารที่เข้าร่วมโครงการ โดยหักจากบัญชีเงินเดือนในอัตราร้อยละ 25 และหักในอัตราคงที่ในแต่ละงวดที่จ่ายเงินสมทบเข้าโครงการ โดยจะมีเงินสมทบจากธนาคาร ในอัตราร้อยละ 100 ถึงร้อยละ 750 ของเงินสมทบที่ผู้ร่วมโครงการจ่ายเข้าโครงการทุกงวด ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ในงบประมาณ 841 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนในการซื้อหุ้น TTB ภายใต้โครงการ EJIP2025 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ภายในช่วงวันที่ธนาคารกำหนดในแต่ละงวดที่จ่ายเงินสมทบเข้าโครงการ รวมทั้งจัดสรรหุ้น TTB ที่ซื้อในแต่ละงวดไปยังบัญชี EJIP ของพนักงานและผู้บริหารที่เข้าร่วมโครงการแต่ละคน นอกจากนี้ เงื่อนไขการถือครองหลักทรัพย์ โดยพนักงาน และผู้บริหารที่เข้าร่วมโครงการ มีสิทธิขายหุ้น TTB ที่ซื้อสะสมในโครงการในแต่ละปีดังนี้ โปรแกรม เอ: ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2569 สามารถขายหุ้น TTB ได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของจำนวนหุ้นที่ซื้อสะสมทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2570 สามารถขายหุ้น TTB ได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่ซื้อสะสมทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2571 สามารถขายหุ้น TTB ได้ทั้งหมดของจำนวน หุ้นที่ซื้อสะสมทั้งหมด โปรแกรมแกรมบี : ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2569 สามารถขายหุ้น TTB ได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของจำนวนหุ้นที่ซื้อสะสมทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2570 สามารถขายหุ้น TTB ได้ไม่เกินร้อยละ 35 ของจำนวนหุ้นที่ซื้อสะสมทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2571 สามารถขายหุ้น TTB ได้ไม่เกินร้อยละ 65 ของจำนวนหุ้นที่ซื้อสะสมทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2572 สามารถขายหุ้น TTB ได้ไม่เกินร้อยละ 85 ของจำนวนหุ้นที่ซื้อสะสมทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2573 สามารถขายหุ้น TTB ได้ทั้งหมดของจำนวนหุ้นที่ซื้อสะสมทั้งหมด ส่วนเงื่อนไขการออกจากโครงการ โดยการสิ้นสุดความเป็นสมาชิกโครงการ เมื่อพนักงานและผู้บริหาร พ้นสภาพการเป็นพนักงานของโครงการ ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องดำเนินการจ่ายค่าหุ้นคงเหลือที่ยังอยู่ใน Silent Period ในส่วนที่ธนาคารสมทบให้คืนให้กับธนาคารภายใน 10 วันทำการก่อนวันมีผล แต่ยกเว้น กรณีที่ผู้เข้าร่วมโครงการเกษียณอายุ 60 ปีบริบูรณ์ หรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง จากการทุพพลภาพหรือเสียชีวิต ให้หุ้น TTB ทั้งหมดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของพนักงาน โดยธนาคารจะปลดระยะเวลาห้ามซื้อขายของหุ้นที่เหลือทั้งในส่วนของพนักงานและธนาคารทั้งหมดภายใน 30 วันทำการจากวันที่เกิดกรณี