AutoTrader

ตลาดหุ้นยุโรปปิดแดนลบในวันพฤหัสบดี (29 พ.ค.68) ท่ามกลางภาวะซื้อขายที่ระมัดระวัง หลังจากแรงหนุนที่เกิดจากคำสั่งศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ ซึ่งระงับมาตรการภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มจางหายไป ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 547.88 จุด ลดลง 1.05 จุด หรือ 0.19% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 7,779.72 จุด ลดลง 8.38 จุด หรือ -0.11% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 23,933.23 จุด ลดลง 104.96 จุด หรือ -0.44% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 8,45 จุด ลดลง 9.56 จุด หรือ -0.11% ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตัน มีคำสั่ง “ระงับชั่วคราว” คำตัดสินของศาลการค้า โดยเปิดโอกาสให้ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ยื่นอุทธรณ์ภายในวันที่ 5 มิถุนายน และให้รัฐบาลตอบกลับภายในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ ส่งผลให้ตลาดกลับเข้าสู่โหมดรอดูความชัดเจนอีกครั้ง หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ของยุโรป ยังได้แรงส่งจากหุ้น Nvidia (NVDA) ที่พุ่งขึ้นในตลาดสหรัฐฯ โดย ASM International เพิ่มขึ้น 2.7%, Soitec พุ่ง 3.6% และ ASML Holdings ปรับขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยรวมลดลง 0.2% หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนก่อนหน้า ด้านหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค ถูกกดดันจากแรงขาย XD โดย National Grid ร่วงลง 3.8% และ Severn Trent ลดลง 2.3% ขณะที่ Auto Trader แพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์รายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งแรงถึง 11.3% หลังรายได้ทั้งปีต่ำกว่าคาดการณ์ ถือเป็นการร่วงรายวันที่แรงที่สุด นับตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 แม้จะมีแรงประคองจากกลุ่มเทคโนโลยี แต่โดยรวมตลาดยังคงผันผวนจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า โดยเฉพาะภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายมองว่า คำสั่งระงับของศาลอุทธรณ์ครั้งนี้อาจไม่ใช่การเปลี่ยนจุดยืนของรัฐบาลวอชิงตัน แต่เป็นเพียงขั้นตอนในกระบวนการยืดเยื้อที่อาจไปจบในศาลฎีกา และจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาว ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ เพิ่งประกาศเลื่อนแผนขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) ออกไป หลังอียูแสดงท่าทีร่วมมือในการเจรจามากขึ้น ซึ่งช่วยคลายความตึงเครียดได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังประเมินว่า ตลาดหุ้นยุโรปอาจขยับขึ้นได้เล็กน้อยในช่วงครึ่งหลังของปี ก่อนจะไปแตะระดับสูงสุดใหม่ได้ในปี 2569