Aviation

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT เปิดเผยผลการตรวจสอบระบบการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยการบินพลเรือนขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ภายใต้โครงการ USOAP CMA พบว่า ประเทศไทยได้รับคะแนนเฉลี่ย 87.17% สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 70.50% และสูงกว่าความคาดหมายอย่างมาก โดยเมื่อปี 2562 หลังการปลดธงแดง ไทยเคยได้คะแนนเพียง 61.60% ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ผลตรวจสอบดังกล่าวถือเป็น Sentiment เชิงบวก ช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่ออุตสาหกรรมการบินไทยในระดับสากล ลดความกังวลของหน่วยงานกำกับต่างประเทศ เช่น FAA ของสหรัฐฯ และ EASA ของยุโรป ขณะเดียวกันยังเป็นปัจจัยหนุนให้สายการบินของไทยมีโอกาสเปิดเส้นทางใหม่หรือเพิ่มความถี่เที่ยวบินสู่ตลาดที่มีกฎระเบียบเข้มงวดได้ง่ายขึ้น บล.ดาโอประเมินว่ากลุ่ม Aviation จะได้ประโยชน์ โดยเรียงลำดับเชิงบวก ได้แก่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI , บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA, และบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV รวมถึงเป็นบวกต่อบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ซึ่งจะมีโอกาสขยายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ สนามบินใหม่และศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ทั้งนี้ กลุ่ม Aviation บล.ดาโอยังคงคำแนะนำ “Neutral” โดยแนะนำ “ถือ” AOT ให้ราคาเป้าหมายที่ 37.00 บาท สำหรับ พล.อ.อ.มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT เปิดเผยถึงผลการตรวจสอบระบบการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยการบินพลเรือน ของคณะผู้ตรวจสอบขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ภายใต้โครงการ USOAP CMA (Universal Safety Oversight Audit Programme – Continuous Monitoring Approach) พบว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้น (Preliminary Results) ประเทศไทยได้รับคะแนนรวมเฉลี่ยที่ 87.17% สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่อยู่ในระดับ 70.50% และสูงกว่าคาดหมาย ขณะที่ปี 2562 หลังปลดธงแดงไทยแล้วได้คะแนนรวมที่ 61.60% ส่วนหัวข้อที่ ICAO ตรวจสอบทั้ง 8 ด้านหลัก โดยด้านกฎหมายการบิน (LEG) และองค์กรกำกับดูแล (ORG) ได้คะแนนเต็ม 100% ส่วนที่เหนือความคาดหมาย คือ ด้านมาตรฐานการสอบสวนอุบัติเหตุ และอุบัติการณ์อากาศยาน (Aircraft Accident and Incident Investigation: AIG) ที่เดิมได้เพียง 40.51% แต่ล่าสุด ได้คะแนนเพิ่มเป็น 61.73% ซึ่งเป็นผลมาจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันปรับปรุงและเตรียมพร้อมในการเข้ารับการตรวจสอบครั้งนี้ พล.อ.อ.มนัท กล่าวว่า หลังจากนี้คณะผู้พิจารณาของ ICAO จะพิจารณาข้อมูลการตรวจสอบประมาณ 45 วัน จากนั้นจะแจ้งผลให้ กพท.ทราบ หากว่ามีหัวข้อใดที่เป็นข้อกังวล และยังมีเวลาสามารถอุทธรณ์ได้ โดยคาดว่าจะมีแจ้งผลอย่างเป็นทางการช่วงเดือนธ .ค.68 ซึ่งผลคะแนนของประเทศไทยครั้งนี้ ยังสะท้อนไปถึงผลการตรวจสอบของสำนักงานบริหารองค์กรการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) ก่อนหน้านี้ที่ยกระดับไทยขึ้นสู่ Category 1 (CAT 1) ตอกย้ำมาตรฐานด้านการกำกับดูแลด้นการบินของประเทศไทย