CryptoNews

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ก.ค.68) ราคาบิตคอยน์ (Bitcoin) ย่อตัวลงมาอยู่ที่ 117,921.90 เหรียญ ลดลง 1,811.00 เหรียญ หรือลงไป 1.51% หลังจากเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ราคาบิตคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 123,000 เหรียญ โดยได้แรงหนุนจากการเข้าลงทุนของนักลงทุนสถาบัน บริษัทจดทะเบียนที่เพิ่มบิตคอยน์ในงบดุล และเงินลงทุนที่ไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ซึ่งจะกดดันค่าเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่า และเอื้อต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงสถานการณ์ในสหรัฐฯ ยังเพิ่มน้ำหนักเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นตลาด หลังสภาผู้แทนราษฎร เริ่มพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญเกี่ยวกับคริปโตที่มุ่งสร้างความชัดเจนด้านการกำกับดูแล ช่วยลดความไม่แน่นอนที่เคยเป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม และถือเป็นสัญญาณบวกต่อการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนกลับเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ นางสาวเกรซี่ เฉิน (Gracy Chen) กรรมการผู้จัดการ Bitget กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของราคาบิตคอยน์ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมั่นในตลาด โดยเฉพาะหลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่หันมาเพิ่มคริปโตเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารสินทรัพย์ อีกทั้งแนวโน้มการลดดอกเบี้ยในสหรัฐฯ และการอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นแรงสนับสนุนสำคัญ ทำให้มีโอกาสที่ราคาบิตคอยน์จะปรับขึ้นแตะ 1.5 แสนเหรียญภายในไตรมาส 3 นายไรอัน ลี (Ryan Lee) หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ Bitget Research กล่าวว่ากระแสเงินลงทุนผ่าน ETF ปัจจุบันเติบโตในระดับกว่า 2,500 ล้านเหรียญต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกของตลาดคริปโต อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยโลก ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และแรงขายทำกำไรที่อาจเกิดขึ้นเมื่อราคาขึ้นไปแตะระดับสูง สำหรับฝั่งอีเธอเรียม (Ethereum) นายลี ระบุว่า ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการลงทุนผ่านกองทุน ETF และการขยายตัวของกิจกรรม DeFi โดยคาดว่าราคาเฉลี่ยในไตรมาส 3 จะอยู่ที่ราว 3,800 เหรียญ และหากผ่านแนวต้าน 3,700 เหรียญได้สำเร็จ อาจขยับขึ้นไปแตะระดับ 5,000 เหรียญ